ภายหลังจากกรุงเทพมหานคร(กทม.) และกองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) มีนโยบายร่วมกันจัดระเบียบทางเท้าถนนรามคำแหง ช่วงซอย17-65 รวมระยะทาง1.5กม. ที่ก่อนหน้านี้มีกลุ่มผู้ค้าจำนวนมาก ตั้งแผงขายของบนทางเท้า ส่งผลต่อการสัญจรของประชาชนทั่วไป นายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่ากทม. เปิดเผยว่า ฝ่ายโยธากทม. ได้ประสานขอความร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณูปโภคทั้งการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) การประปาส่วนภูมิภาค(กปน.) ไปรษณีย์ และองค์การโทรศัพท์ ในการร่วมกันปรับพื้นที่ทางเท้าให้มีที่ว่างกว้าง3เมตรตามกฏหมายกำหนด กลุ่มผู้ค้าย่านรามคำแหงให้ความร่วมมือในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งกำหนดกรอบดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน90วัน ทั้งนี้จากการลงพื้นที่พบว่า ยังคงมีผู้ค้าฝ่าฝืนตั้งแผงค้าขายล้ำแนวทางเท้า เช่น ร้านกาแฟ ร้านรองเท้า และร้านเสื้อผ้า โดยผู้ค้าอ้างว่าเข้าใจผิดคิดว่าต้องรอฝ่ายโยธามารื้อสิ่งปลูกสร้างก่อน และยังอ้างถึงกรณีขั้นบันไดของห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่มีการรุกล้ำเช่นกัน
ด้านพล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ยืนยันว่า การรุกล้ำทางเท้าทุกชนิดจะมีการจัดระเบียบ โดยห้ามมีการเสริมความสูงจากทางเท้าให้เป็นขั้นบันได ห้ามเสริมหลังคายื่นจากแนวอาคาร และกรณีค้าขายอยู่ภายในห้องแถว ส่วนบุคคลก็ห้ามวางแผงล้ำทางเท้าเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับ2,000บาท เพราะมีการอนุโลมให้ตั้งแผงขายของได้หลังเวลา19.30น. ถึงเวลา24.00น.เท่านั้น ทั้งนี้ การจัดระเบียบทางเท้าถนนรามคำแหง เตรียมทำเป็นพื้นที่ต้นแบบหรือรามคำแหงโมเดล โดยพื้นที่ต่อไปที่จะมีการจัดระเบียบคือบริเวณรพ.ศิริราชในวันที่1ต.ค. จากนั้นในวันที่15ต.ค. จะเป็นถนนข้าวสาร
อภิสุข