ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.: 29 สิงหาคม 2561 ฝรั่งเศส แนะเลิกพึงพาสหรัฐ/ราคาน้ำมันโลกทรงตัว/สส.อิหร่านไม่พอใจ ปธน.ชี้แจงวิกฤตศก.ไม่ได้

ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.

+++ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส เรียกร้องให้ประเทศสมาชิก สหภาพยุโรปเลิกพึ่งพาสหรัฐ อเมริกา และแต่ละกลุ่มประเทศยุโรปควร หันมากระชับความร่วมมือทางทหารกันมากขึ้น เพื่อยืนหยัดปกป้องตัวเอง   พร้อมเรียกร้องให้หารือเรื่องความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงกับรัสเซีย ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายประเทศชายแดนตะวันออกของอียูวิตกกังวล 

++สหรัฐฯจะยุติระงับซ้อมรบในคาบสมุทรเกาหลี ความเคลื่อนไหวที่เป็นมาตรการแสดงความจริงใจ ตามหลังการประชุมซัมมิตระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับ คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ เมื่อเดือนมิถุนายน จิม แมตทิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวว่า การระงับการซ้อมรบใหญ่ เป็นมาตรการแสดงความจริงใจ

+++ราคาน้ำมันทรงตัวในวันอังคาร จากแรงขายทำกำไร  สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 34 เซ็นต์ ปิดที่ 68.53 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 26 เซ็นต์ ปิดที่ 75.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล 

+++ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันอังคาร(28ส.ค.) ปิดบวก โดยเอสแอนด์พี500และแนสแดค ทุบสถิติสูงสุดในรอบ3วันติดกัน นักลงทุนมั่นใจมากขึ้นต่อการเจรจาการค้าอเมริกาเหนือ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 14.38 จุด ปิดที่ 26,064.02 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 0.78 จุด ปิดที่ 2,897.52 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 12.14 จุด ปิดที่ 8,030.04 จุด  ปัจจัยสำคัญมาจาก เจ้าหน้าที่จากสหรัฐฯและแคนาดามีกำหนดเริ่มเจรจากันในกรุงวอชิงตัน เพื่อกอบกู้ความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ(นาฟตา) ซึ่งเป็นประเด็นที่กระทบความเชื่อมั่นของนักลงทุนเกือบตลอดทั้งปี 2018

+++ด้านส.ส.ภายในพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และตัวแทนจากภาคอุตสาหกรรม เรียกร้องให้ทำเนียบขาวรักษาข้อตกลงการค้าในสถานะความตกลง 3 ชาติ แต่ นายทรัมป์ ขู่กีดกัน ออตตาวา จากข้อตกลง หลังจาก บรรลุข้อตกลง การค้าที่เป็นประโยชน์กับเม็กซิโกเมื่อวันจันทร์(27ส.ค.)

ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร(28ส.ค.) ขยับลงเล็กน้อย ถูกกดดันจากการดีดตัวของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนแผนปรับขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มเติมของเฟด โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,214.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++เกิดเหตุความไม่สงบในเยอรมนีหลังเหตุต่อต้านชาวต่างชาติในกลุ่มชาวเยอรมันที่มีแนวคิดขวาจัด  ทำให้เกิดเหตุรุมเข้าทำร้ายคนที่มีหน้าตาคล้ายชาวต่างชาติ จุดประเด็นการถกเถียงในเรื่องนโยบายการเปิดประเทศต้อนรับผู้อพยพเข้าเมืองอีกครั้ง อีกด้านหนึ่ง ก็มีการผู้ประท้วงอีกกลุ่ม ที่เห็นขัดแย้งกัน ได้ชุมนุมกันในสวนสาธารณะเล็กๆแห่งหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกันเพื่อเรียกร้องให้กลุ่มแนวคิดขวาจัดให้ออกจากเมืองนี้ เช่นกัน ส่งผลทำให้ คนทั้งสองกลุ่มไม่พอใจกัน ขว้างพลุดอกไม้ไฟและวัตถุอื่นๆใส่กันเมื่อคืนวานนี้ มีผู้บาดเจ็บ 6 คน  สาเหตุการประท้วง เกิดขึ้นจากผู้อพยพ 2 คนคือชาวซีเรียคนหนึ่งและชาวอิรักคนหนึ่งใช้มีดแทงชายชาวเยอรมันวัย 35 ปีคนหนึ่งเสียชีวิตในเมืองเคมนิทซ์ รัฐแซกโซนี ทางภาคตะวันออกของประเทศ

++++เอเอฟพีรายงานว่าสมาชิกนิติบัญญัติส่วนใหญ่ของอิหร่านลงมติไม่พอใจเรื่องการบริหารจัดการเศรษฐกิจของรัฐบาลประธานาธิบดีฮัสซัน โรว์ฮานีของอิหร่านหลังการอภิปรายกระทู้สดเพื่อตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล นับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่รัฐสภาของอิหร่านเชิญประธานาธิบดีโรว์ฮานีให้เข้าไปชี้แจงต่อที่ประชุมสภา

+++สส.ส่วนใหญ่ต้องการให้นายโรว์ฮานีตอบคำถามรวม 5 ข้อ รวมถึงเรื่องอัตราการว่างงาน ราคาสินค้าที่สูงขึ้นและค่าเงินเรียลที่อ่อนค่าลงมากคือเสียมูลค่าไปกว่าครึ่งหนึ่งนับตั้งแต่เดือนเมษายน หลังเสร็จการอภิปราย สส.ส่วนใหญ่ลงมติว่าไม่พอใจคำตอบของนายโรว์ฮานี 4 ข้อจากทั้งหมด 5 ข้อ สำหรับเรื่องเดียวที่สส.ส่วนใหญ่รู้สึกพอใจกับคำชี้แจงของนายโรว์ฮานี คือประเด็นที่ว่าการคว่ำบาตรภาคการเงินการธนาคารของนานาชาติเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของรัฐบาลอิหร่าน

+++คณะผู้เชี่ยวชาญที่แต่งตั้งโดยคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็น) เชื่อว่าการใช้ความรุนแรงของคู่ขัดแย้งทุกฝ่ายในเยเมนเข้าข่ายความผิดฐานก่ออาชญากรรมสงคราม  ทั้ง กลุ่มพันธมิตรที่มีซาอุดิอาระเบียเป็นแกนนำที่ปฏิบัติการทางอากาศเพื่อสนับสนุนรัฐบาลเยเมนและกบฏฮูตีว่าไม่ได้ใช้ความพยายามให้มากพอเพื่อให้พลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บน้อยที่สุด พร้อมทั้งเตือนกรณีการปิดล้อมทางอากาศและทางทะเลของพันธมิตร เป็นเหตุให้องค์กรการกุศลนานาชาติไม่สามารถส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปช่วยเหลือ 22 ล้านคนในเยเมนที่ต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมว่าอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานก่ออาชญากรรมสงครามเช่นกัน

+++นักข่าวจากสำนักข่าวชั้นนำกว่า 100 คนจากกว่า 20 ประเทศทั่วโลกได้ยื่นจดหมายเปิดผนึกฉบับหนึ่งที่เขียนโดยนายแซมมี เคตซ์ นักข่าวสายต่างประเทศของเอเอฟพี ต่อรัฐสภาแห่งยุโรปในเมืองสตราสบูร์ก ฝรั่งเศสในวันนี้ ขอให้สมาชิกรัฐสภาแห่งยุโรปลงมติรับรองร่างกฎหมายปฏิรูปลิขสิทธิ์ของสื่อสาระสำคัญคือการขอให้บังคับให้บริษัทยักษ์ใหญ่ทางอินเตอร์เน็ตคือกูเกิ้ลและเฟซบุ๊ก จ่ายค่าใช้บริการเนื้อหาข่าวสารให้กับพวกเขา ระบุว่ารายได้ที่บริษัทยักษ์ใหญ่ทางอินเตอร์เน็ตได้รับจากการเอาเปรียบสื่อนับว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้องทั้งในแง่ของศีลธรรมและไม่ใช่หลักการของประชาธิปไตยที่ถูกต้อง โดยสมาชิกนิติบัญญัติแห่งรัฐสภายุโรปจะกลับมาปฏิบัติหน้าที่อีกครั้งในเดือนกันยายนนี้หลังการปิดประชุมในช่วงฤดูหนาว เพื่อพิจารณาร่างกฎหมายนี้เป็นวาระแรก