*เหยื่อจากเหตุชุมนุมแยกหลักสี่ เสียชีวิต หลังถูกยิงเป็นอัมพาตกว่า8เดือน*

นายอะแกว แซ่ลิ้ว ชายวัย 72 ปี ที่โดนกระสุนลูกหลงจากเหตุการณ์การชุมนุมที่แยกหลักสี่ หรือเหตุการณ์มือปืนป็อปคอร์นเมื่อ 1 ก.พ. 57 เสียชีวิตแล้วเมื่อประมาณ 7.00 น. เช้าวันนี้ (25 ก.ย.) หลังนอนเป็นอัมพาตเป็นเวลากว่า 8 เดือน  นางเอื้องฟ้า ทองทา ลูกสาวนายอะแกว เปิดเผยว่านายอะแกวออกจากการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน ซึ่งจากการถูกยิงที่ลำคอ กระสุนได้ทำลายเส้นประสาทและกระดูกคอ ทำให้เป็นอัมพาตตั้งแต่ลำคอไปจนถึงปลายขา ไม่สามารถสื่อสารเป็นคำพูดที่เปล่งเสียงออกมาได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ต้องให้อาหารทางสายยางและเจาะคอดูดเสลดออกทุก 2 ชม. หลังจากนายอะแกวถูกยิง นางเอื้องฟ้าได้ลาออกจากงานเพื่อดูแลบิดา และยังเปิดเผยอีกว่าในช่วงที่ข่าวกำลังเป็นที่สนใจ มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเพียงหน่วยงานเดียว คือ กระทรวงยุติธรรมที่ให้เงินก้อนมาเป็นจำนวน 103,000 บาท รวมทั้งเงินที่ได้รับจากการบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาที่หลั่งไหลเข้ามาในช่วงนั้น ซึ่งได้กลายมาเป็นค่าใช้จ่ายที่หมดไปในแต่ละเดือนสำหรับดูแลรักษาพยาบาลนายอะแกว โดยตนมีรายได้จากการขายของชำอยู่ที่บ้าน ซึ่งเป็นรายได้จำนวนไม่มาก ขณะที่ต้องเลี้ยงดูบุตรสาวและหลานอีกรวม 3 คน ครอบครัวจะนำศพของอะแกว แซ่ลิ้ว ตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดหลักสี่ และกำหนดฌาปนกิจวันที่ 28 ก.ย.

สำหรับ นายอะแกว เป็นพ่อค้าขายน้ำอัดลมหน้าโรงเรียนเคหะทุ่งสองห้องวิทยา 2 ถูกยิงเข้าที่ลำคอจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะเดินออกจากบ้านไปตามลูกสาวที่ทำงานอยู่ที่ห้างไอทีสแควร์ในวันที่มีการชุมนุมปิดล้อมคูหาเลือกตั้งที่สำนักงานเขตหลักสี่เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นเหตุการณ์เดียวกันกับเหตุการณ์มือปืนป็อปคอร์น ซึ่งอะแกว ป็นชายทในภาพที่ถูกแชร์บนโลกโซเชียลว่านอนแน่นิ่งจมกองเลือด โดยไม่มีผู้ใดเข้าช่วยเหลือ ขณะที่เหตุปะทะยังไม่ยุติ