การส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศกลับเมียนมายังไม่คืบหน้า

การส่งผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาในบังกลาเทศเดินทางกลับเมียนมายังไม่มีความคืบหน้า หลังครบรอบ 1 ปีเหตุการณ์กองกำลังรักษาความมั่นคงของเมียนมาใช้กำลังปราบปรามชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ จนต้องอพยพเข้าไปอยู่อาศัยในค่ายผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศเกือบ 1 ล้านคน โดยเขต “ค็อกซ์ บาซาร์” กลายเป็นชุมชนผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนายอับดุล มาเล็ก หนึ่งในผู้ลี้ภัยวัย 27 ปี เปิดเผยว่า สถานการณ์ยังไม่ยุติ หนึ่งปีนี้เป็นเพียงการเริ่มต้นอีกหลายอย่างที่กำลังจะตามมา แม้ทางการเมียนมาประกาศความพร้อมจะนำตัวผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับประเทศ แต่จนถึงขณะนี้มีผู้ลี้ภัยเดินทางกลับเมียนมาไม่ถึง 200 คน

ด้านนางอองซานซูจี ที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมา กล่าวว่า ความรวดเร็วในการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญากลับเมียนมาขึ้นอยู่กับบังกลาเทศ และยังคงยืนยันว่า กลุ่มติดอาวุธชาวโรฮิงญายังคงมีอยู่จริงและเป็นภัยก่อการร้าย ทั้งนี้ มูลเหตุสำคัญที่ทำให้ชาวโรฮิงญาส่วนใหญ่ยังไม่เดินทางกลับเมียนมา เนื่องจาก ห่วงกังวลด้านความปลอดภัยเป็นสำคัญ โดยชาวโรฮิงญารายหนึ่งให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอเอฟพีว่า จะไม่เดินทางกลับเมียนมา หากไม่ได้รับหลักประกันความปลอดภัย ความเป็นพลเมือง ความยุติธรรม ตลอดจนถึงสิทธิต่างๆ และเงินชดเชย บ้านเรือน และที่ดินที่ถูกทำลายเผาไหม้ ขณะที่ หัวหน้าคณะแพทย์ไร้พรมแดนในบังกลาเทศเห็นว่า อาจต้องใช้เวลาหลายสิบปีกว่าผู้ลี้ภัยจะเดินทางกลับเมียนมาได้อย่างปลอดภัย

ทีมต่างประเทศ

CR:AFP