หุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นทำสถิติใหม่ ส่วนมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐฯ มีผลต่อตลาดน้ำมันแล้ว

ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 89 เซ็นต์ ปิดที่ 68.72 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 1.09 ดอลลาร์ ปิดที่ 75.82 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล  นักวิเคราะห์ด้านพลังงาน ระบุว่า มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯที่มีต่ออิหร่าน แม้ยังไม่บังคับใช้อย่างสมบูรณ์จนกว่าจะถึงวันที่ 4 พฤศจิกายน แต่ก็เริ่มส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตของอิหร่านแล้ว จากการคาดหมายเบื้องต้นพบว่าการส่งออกน้ำมันดิบและแก๊สธรรมชาติเหลวของอิหร่าน ลดลงเหลือ 1.68 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 16 วันแรกของเดือนสิงหาคม ลดลงจากเดือนกรกฏาคม 600,000 บาร์เรลต่อวัน

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดตลาดวันศุกร์ พุ่งทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลรอบใหม่ หลังนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ระบุว่า ไม่พบสัญญาณเศรษฐกิจร้อนแรงเกินไปและคาดหมายว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน มีนโยบายปรับขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 133.37 จุด ปิดที่ 25,790.35 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 17.71 จุด  ปิดที่ 2,874.96 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 67.52 จุด ปิดที่ 7,945.98 จุด นักวิเคราะห์ ยกย่องถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์ ว่าเป็นไปในทางบวก ขณะที่ นักสังเกตการณ์ในตลาดคาดหมายว่าเฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้

ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ ปิดบวกแรง หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลง จากถ้อยแถลงของประธานเฟด  ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 19.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,213.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แฟ้มภาพ