ตร.ท่องเที่ยวจับแก๊งโรแมนสแกมซ์ หลอกลวงเหยื่อให้โอนเงิน เสียหายกว่า2แสน

24 สิงหาคม 2561, 15:43น.


การจับกุมแก๊งแสร้งรักออนไลน์ หรือโรแมนสแกมซ์ ร่วมกันหลอกลวงคนไทยด้วยวิธีการแสดงตนเป็นบุคคลอื่นผ่านโซเชียลเพื่อให้เหยื่อหลงเชื่อ จากนั้นจึงร่วมกันหลอกลวงให้ผู้เสียหาย โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ โดยมีผู้เสียหายถูกหลอกในพื้นที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร มูลค่าความเสียหาย 35,500 บาท และสภ.เมืองระยอง ความเสียหาย 79,500 บาท



พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ระบุว่า ตำรวจ สามารถจับกุมนายแซมซัน เอ็นนามดี้ ออจิ อายุ 32 ปี ชาวไนจีเรีย นายโอรูบอร์ คิงลี่ โนซ่า อายุ 38 ปี ชาวไนจีเรีย และนายจีน อิริค ทูคาม อายุ 41 ปี ชาวแคเมอรูน โดยพฤติการณ์ผู้ต้องหา จะมีนายแซมซัน เอ็นนามดี้ ออจิ ทำหน้าที่ถอนเงินจากบัญชีที่ใช้หลอกผู้เสียหาย โดยมีนางสาวกัญญาภัค บุญล้ำ อายุ 26 ปี ทำหน้าที่รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารและเป็นนกต่อแสร้งเป็นเจ้าหน้าที่ขนส่ง โทรศัพท์หลอกลวงผู้เสียหาย ส่วนนายโอรูบอร์ คิงลี่ โนซ่า อายุ 38 ปี เป็นเครือข่ายร่วมแก๊ง



จากการสืบสวนขยายผล พบว่าเครือข่ายดังกล่าวใช้เงินดอลลาร์ปลอมหลอกลวงผู้เสียหาย โดยร่วมกันหลอกลวงผู้เสียหายในพื้นที่ สน.สุทธิสาร อีก 1 ราย ซึ่งได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงิน 119,000 บาท ต่อมา คนร้ายได้ติดต่อให้ผู้เสียหายโอนเงินเพิ่มให้อีก 150,000 บาท แต่ผู้เสียหายไม่หลงเชื่อคนร้าย มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้บอกคนร้ายว่าเพื่อเป็นการยืนยันว่าจะได้เงินและทรัพย์สินมีค่าจริงให้ไปพบกับเพื่อนชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย บริเวณโรงแรมบางกอก อินเตอร์ เพลซ ซอยรามคำแหง 24 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม เวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ที่ซุ่มรออยู่ ซ้อนแผนจับกุมนายจีน อิริค ทูคาม ตรวจค้นพบธนบัตรปลอมฉบับละ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ห่อด้วยกระดาษใสและขุ่น จำนวน 26 มัด และอุปกรณ์ต้องสงสัยใช้ในการปลอมธนบัตร โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และทรัพย์สินหลายรายการ ซ่อนอยู่ในรถยนต์ของผู้ต้องหา สอบสวนผู้ต้องหารับว่าได้ธนบัตรปลอมดังกล่าว มาจากเพื่อนชาวแคเมอรูนที่อยู่ต่างประเทศ    



นายจีน อิริค ทู ผู้ต้องหามีหน้าที่รับข้อมูลผู้เสียหายจากกลุ่มสแกมเมอร์ และติดต่อกับผู้เสียหาย นำเงินปลอมดังกล่าวให้ผู้เสียหายดู เพื่อหลอกลวงให้หลงเชื่อโอนเงินให้ โดยจะได้ค่าตอบแทนร้อยละ 15 จากเงินที่หลอกได้ ส่วนธนบัตรปลอม ได้ตรวจสอบจากทางเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาและพิสูจน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผลการตรวจสอบธนบัตรดังกล่าวเป็นของปลอมทั้งหมด โดยปลอมในลักษณะใช้เครื่องปั๊มธนบัตรที่มีความละเอียดและคล้ายคลึงกับธนบัตรของจริง บางส่วนใช้การถ่ายเอกสารสี เจ้าหน้าที่สืบสวน จะสืบสวนหาที่มาของธนบัตรปลอม และจากการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าสถิติการเกิดเหตุลดลงอย่างมาก จากเดิมที่มีผู้เสียหายเดือนละประมาณ 20-30 ราย แต่ขณะนี้เหลือประมาณ 10 ราย



ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข



 



 

ข่าวทั้งหมด

X