การสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง และส่งเสริมให้ทำอุตสาหกรรมครบวงจร รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจและกระจายรายได้สู่ชุมชน ผ่านโครงการไมซ์เพื่อชุมชน ในวันนี้ได้มีพิธีเปิดงานไมซ์เพื่อชุมชนมิติใหม่อุตสาหกรรมไมซ์ โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการองค์การมหาชน (สสปน.) ร่วมกับกรมส่งเสริมสหกรณ์ นางอรรชกา สีบุญเรือง ประธานกรรมการส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ มีแนวทางผลักดันให้เกิดความร่วมมือการส่งเสริมตลาดอุตสาหกรรมไมซ์ หรือส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมประชุม สัมมนา นอกสถานที่ ในพื้นที่ต่างจังหวัด จากเดิมที่มุ่งเน้นให้เกิดประโยชน์ในด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียว
ปัจจุบันรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมไมซ์มากยิ่งขึ้น เนื่องจาก อุตสาหกรรมไมซ์ สร้างรายได้ให้ประเทศปีละกว่า 60,000 ล้านบาท นอกจากจะเกิดประโยชน์กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ธุรกิจ โรงแรม และร้านอาหารแล้ว ยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดกับชุมชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกษตรกรได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง ถือเป็นวัตถุประสงค์สำคัญ โดยเฉพาะในภาคการเกษตร ในปีนี้ นำร่องชุมชนสหกรณ์ จำนวน 35 แห่ง และตั้งเป้าในปีหน้าอีก 200 แห่ง จากสหกรณ์การเกษตรในทุกอำเภอทั่วประเทศ 763 แห่ง นอกจากนี้ ในชุมชนสหกรณ์บางแห่งยังเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อให้บุคคลภายนอกได้เข้าไปศึกษาผลิตภัณฑ์ภายในชุมชนถือเป็นช่องทางการตลาดอีกทางที่จะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมไมซ์ทั่วประเทศ และเกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชนด้วย
ด้านนายศิริชัย จันทร์นาค ผู้จัดการสหกรณ์บ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี เล่าว่า ผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของสหกรณ์บ้านลาดคือกล้วยหอมทองและน้ำตาลโตนด แต่เดิมขายตามร้านสหกรณ์ และส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น แต่ก็อยากให้คนในประเทศได้รับสินค้าดีๆ เมื่อได้เข้ามาร่วมโครงการไมซ์เพื่อชุมชน สินค้าที่อยู่ในชุมชนก็สามารถนำมาใช้ในการจัดสัมมนา จัดเป็นอาหารว่างได้ ถือเป็นมิติใหม่ ที่แตกต่างจากการอบรมสัมมนาในโรงแรมทั่วไป และยังเกิดการแปรรูปผลิตภัณฑ์
ขณะเดียวกันที่บ้านลาดยังมีศูนย์จัดฝึกอบรมเรียนรู้ในชุมชน ให้หน่วยงานอื่นเข้าไปเรียนรู้การผลิตในชุมชน ซึ่งประโยชน์ที่เกษตรกรในสหกรณ์ได้รับคือทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นที่รู้จักมากขึ้น เกษตรกรยังเกิดการตื่นตัวที่มุ่งพัฒนาสินค้าของตัวเองให้มีคุณภาพอยู่เสมอ และสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น ส่วนในอนาคตก็อยากให้มีการผลักดันชุมชนสหกรณ์อื่นๆ ต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม