ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 23 สิงหาคม 2561 ช่วงที่ 1

+++นายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบฝนตกร้อยละ 60-70 ภาคเหนือ จ.เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม อุดรธานี กาฬสินธุ์ และมุกดาหาร ภาคตะวันออกบริเวณ จ.นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด ภาคใต้ฝั่งตะวันตก จ.ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล สำหรับผู้ที่จะเดินทางไปประเทศเกาหลี และตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น ขอให้ตรวจสอบอากาศ เนื่องจากมีพายุไต้ฝุ่น ซูลิก (SOULIK) กำลังจะเคลื่อนผ่านช่วงวันที่ 23-24 ส.ค.

+++สถานการณ์น้ำท่วมที่จ.เพชรบุรี การระบายน้ำท้ายเขื่อนเพชร 175 ลบ.ม. ต่อวินาที เกินเกณฑ์เฝ้าระวัง 150 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือวันละ 15.12 ล้าน ลบ.ม. ทำให้สถานศึกษาในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีหลายแห่ง ประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราว

+++เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองน่าน กรมโยธาธิการและผังเมืองน่าน ทหารจาก ม.พัน10และ หน่วยงานที่เกี่ยวน้อง เร่งสำรวจปรึกษาหาแนวทางแก้ปัญหาที่บ้านสวนตาลล่าง ต.ในเวียง อ.เมืองน่าน หลังจากน้ำในแม่น้ำน่านลดลง ทำให้เห็นได้ชัดว่าพนังกั้นน้ำ ได้พังทลายลงไปลึกว่า5เมตร ระยะทางยาวกว่า100 เมตร ทำให้พื้นที่บริเวณบ้านสวนตาลล่าง ถนนหน่อคำ ไม่มีแนวพนังกั้นน้ำ หากมีฝนตกลงมาซ้ำอีก ระดับน้ำเพิ่มสูง น้ำอาจไหลทะลักเข้าท่วมเขตเศรษฐกิจเมือง

+++นายณรงค์ น้ำผึ้ง โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดน่าน เปิดเผยว่าจะนำไม้มาตอกปักหลัก ทำเป็นตลิ่งแบบขึ้นบันได้ โดยใช้กระสอบใส่ทราย มาทำก่อน เมื่อทำตลิ่งชั่วคราวเสร็จแล้ว ก็จะทำพนังกั้นน้ำชั่วคราว โดยใช้กระสอบทราย ให้มีความสูงเท่าระดับพนังกั้นน้ำเดิมไปก่อน ให้ชาวบ้านสบายใจ

+++กระแสต่อต้านคัดค้าน พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ. .ฉบับใหม่ กรณีขับรถไม่มีใบขับขี่ มีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท เห็นว่าควรไปปรับปรุงการสอบใบขับขี่ ออกกฎหมายเอาผิดพวกเมาแล้วขับให้หนักขึ้นมากกว่า พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผบก.ส.3 ในฐานะคณะกรรมการแก้ไขปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า กรณีไม่มีใบอนุญาตขับขี่ จะถูกเปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 50,000 บาท และไม่พกใบขับขี่จะถูกปรับ 10,000 บาท จำนวนเงินดังกล่าวเป็นเพียงอัตราโทษปรับสูงสุด แต่การไม่พกใบขับขี่ การเปรียบเทียบปรับจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน และกรณีไม่มีใบขับขี่ การเปรียบเทียบปรับ จะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ที่จะมีความเห็นสั่งปรับ และกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)

+++แก๊งตุ๋นแชร์ข้ามชาติ 1,000 ล้านบาท  พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กล่าวถึง ความคืบหน้าคดีบริษัท อีเกิ้ลเกทส์ กรุ๊ป จำกัด หลอกลวงผู้เสียหายให้ร่วมลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ในไทยมีความเสียหายมูลค่าไม่น้อยกว่า 1,000 ล้านบาท เจ้าหน้าที่จับกุมนายเดอร์ริค แมทธิว เคเลอร์ สัญชาติอเมริกัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ระหว่างเดินทางกลับเข้ามาประเทศไทย ในฐานะนักท่องเที่ยวที่จังหวัดภูเก็ต 

+++จากการสอบปากคำทราบว่ามีอาชีพเป็นนักแสดงอิสระอยู่ที่ประเทศจีน  และได้รับการว่าจ้างจากตัวการใหญ่ชาวสิงคโปร์ให้มารับบทแสดงเป็น CEO ของบริษัทอีเกิ้ล เกทส์ กรุ๊ปจำกัด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัท และตระเวนไปทำงานบรรยายชักชวนให้คนมาร่วมลงทุนกับบริษัทในหลายประเทศ แต่จากหลักฐาน พนักงานสอบสวนเชื่อว่าเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดด้วย ได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ระหว่างการดำเนินคดี

+++พฤติการณ์ของขบวนการนี้มีการกระทำความผิดในลักษณะขององค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ มีการแบ่งหน้าที่กันทำ โดยมีผู้ที่เชื่อว่าเป็นตัวการใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์  โดยจัดงานใหญ่บรรยายเพื่อชักชวนให้มีการลงทุนในหุ้นแบบต่างๆที่กำหนดขึ้นและมีผลตอบแทนสูงกว่าสถาบันการเงินทั่วไปให้ ผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีหน้าที่การงาน การเงินดีและมีการศึกษา เมื่อหลงเชื่อและร่วมลงทุนและโอนเงินแล้วเงินทั้งหมดจะถูกยักย้ายถ่ายโอน จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีทั้งไปยังบัญชีเครือข่ายในประเทศไทยและต่างประเทศ พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ขยายผลดำเนินคดีในความผิดฐานฟอกเงิน โดยจะมีการประสานข้อมูลร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.)

+++พนักงานสอบสวนคดีพิเศษ สรุปสำนวนการสอบสวนเสนออัยการสูงสุดเพื่อพิจารณาสั่งคดีแล้วโดยได้ดำเนินการขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้งหมดรวม 32 ราย  ประกอบด้วยคนไทย 23 รายและต่างชาติ   9 ราย จับผู้ต้องหาได้แล้ว 13 รายเป็นชาวไทย 12 รายและต่างชาติ1 ราย

+++คดีค้าประเวณีเข้าข่ายค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ จ.ชัยภูมิ  จับขบวนการลักลอบค้าประเวณีและค้ามนุษย์ที่ร้านวรรณศิริคาราโอเกะ ต.โพนทอง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ  หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากองค์กรระหว่างประเทศด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ (LIFT international) ร้องเรียนและแจ้งเบาะแสผ่านศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทย ว่าเปิดร้านคาราโอเกะบังหน้า แต่ลักลอบให้พนักงานสาวอายุต่ำกว่า 18 ปี ค้าประเวณีอยู่ภายในร้าน เจ้าของหรือผู้ดูแลสถานประกอบการ มีพฤติกรรมเป็นธุระจัดหาเพื่อการค้าประเวณี และได้รับผลประโยชน์ มีการเรียกผลประโยชน์จากเด็กสาวผู้ค้าประเวณีจากค่าตัวเฉลี่ยคนละ 1,200 บาท  จะหักเปอร์เซ็นต์ค่าตัวครั้งละ 300 บาท เข้าข่ายเป็นการกระทำผิดฐานค้ามนุษย์

+++เจ้าหน้าที่วางแผนล่อซื้อและเข้าจับกุม พบพนักงานหญิงลักลอบค้าประเวณี 7 คน เป็นคนไทยทั้งหมด  มีเด็กสาวอายุ 16 ปี จำนวน 2 คน รวมอยู่ด้วย โดยเจ้าของร้าน เปิดเผยว่ามีตำรวจยศ ดาบตำรวจ คนหนึ่ง อ้างตัวว่าเป็นตำรวจ สภ.เมืองชัยภูมิ มาเรียกรับส่วยดูแลให้เปิดร้านคาราโอเกะ ที่ไม่มีใบอนุญาต โดยมีการจ่ายเงินเป็นค่าดูแลในแต่ละเดือนหลายหมื่นบาท

+++ด้าน ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ ยืนยันว่า ไม่มีดาบตำรวจที่มีชื่อถูกกล่าวอ้าง  เพราะหากมีชื่อจริง จะถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา เบื้องต้น แจ้งข้อหาเจ้าของร้านว่าตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นธุระจัดหาให้มีการค้าประเวณี และค้ามนุษย์

+++คดียาเสพติด พลตำรวจเอกเฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงผลจับกุม นายจิรภัทร วิสุทธิ์คงกมล  นายพลวัตร สายบุตร นายเสกสิทธิ์ สิงห์เชิดชูวงศ์ พร้อมยาบ้า ปั้มตรา WY จำนวน 7400 มัด หรือกว่า 14 ล้าน 8 แสนเม็ด หลังได้เบาะแสมีขบวนการรับจ้างลักลอบขนยาเสพติด ด้วยการใช้รถบรรทุกคอนเทรนเนอร์ 22 ล้อ ขนยาบ้าจากโกดังลับในอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ปะปนมากับสินค้าทางการเกษตร มาส่งที่โกดังอีกแห่งในอำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ก่อนกระจายต่อให้กับผู้ค้ารายใหญ่และรายย่อย

+++พลตำรวจโทสมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ระบุว่า ยาบ้าทั้งหมดนั้นมาจากเครือข่ายกลุ่มว้า เวียงแก่น ขนส่งผ่านชายแดนภาคเหนือ ผ่านประเทศไทย เพื่อนำออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านทางภาคใต้ มีกลุ่มนายทุนจากทั้งในประเทศลาว และ ประเทศมาเลเซีย อยู่เบื้องหลัง น่าสังเกตว่าช่วงหลังขบวนการค้ายา จะขนส่งยาเสพติดล็อตใหญ่ ก่อนหน้านี้เคยจับไอซ์ ซุกซ่อนในรถขนปูน มีน้ำหนักถึง 1 ตัน มาแล้ว

+++ส่วนข้อมูลของกลุ่มนายทุน พลตำรวจโทสมหมาย ยืนยันแน่ชัดแล้วว่า 1 ใน นายทุนฝั่งลาวนั้น คือ นายสุรชัย เงินทองฟู หรือ บังรอน นักค้ายาเสพติดชื่อดังซึ่งเคยมีประวัติต่อสู้ปะทะกับเจ้าหน้าที่มาแล้วเมื่อ ปี 2541 โดยเจ้าพ่อยาเสพติดรายนี้ได้ผ่าตัดทำศัลยกรรมใบหน้าให้คล้ายคลึงกับนายทุนรายอื่น

แฟ้มภาพ