ทันสถานการณ์โลก 22 สิงหาคม 2561

22 สิงหาคม 2561, 05:35น.


+++พายุไต้ฝุ่นซูลิก พัดกระหน่ำหมู่เกาะอามามิ ทางใต้ของญี่ปุ่น กำลังเคลื่อนตัวไปทางเหนือมุ่งหน้าไปที่คาบสมุทรเกาหลี เป็นพายุที่มีความรุนแรงระดับ 3 จากระดับความรุนแรงสูงสุดที่ระดับ 5 พายุซูลิก ทำให้เกิดฝนตกหนักและลมพัดแรง วัดได้ 60 เมตรต่อวินาที หรือ 216 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้ไฟฟ้าดับ บ้านเรือนบนเกาะอามามิ กว่า 3,000 หลัง ไม่มีไฟฟ้าใช้



+++พายุไต้ฝุ่นซูลิก ตั้งชื่อโดยสาธารณรัฐสหพันธ์ไมโครนีเซีย เป็นตําแหน่งหัวหน้าเผ่าโบราณ และเป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 19 ที่พัดเข้าญี่ปุ่น ในปีนี้



+++ส่วนพายุไต้ฝุ่น ซีมารอน ซึ่งเป็นภาษาฟิลิปปินส์แปลว่าวัวป่า เตรียมพัดเข้าญี่ปุ่นเป็นลำดับที่ 20 คาดว่า จะขึ้นฝั่งที่เมืองโอซากา ทางตะวันตกของญี่ปุ่นในวันศุกร์นี้



+++สถานทูตไทย ขอให้คนไทยและนักท่องเที่ยว ติดตามสถานการณ์ ระวังภัยจากฝนตกหนัก เผื่อเวลาเดินทางไปสนามบิน และสถานีรถไฟด้วย



+++ประเทศมาเลเซีย เตรียมจัดงานฉลองวันชาติ และมีพิธีสวนสนาม ระหว่างเวลา 9.30-10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 8.30-9.30 น. ตามเวลาในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 27-31 สิงหาคม กระทรวงขนส่งของมาเลเซีย เปิดเผยว่า เที่ยวบินของสายการบินพาณิชย์เกือบ 500 เที่ยวบิน จะได้รับผลกระทบเมื่อมาเลเซีย ปิดน่านฟ้าใกล้กับสนามบินนานาชาติทุก ๆ เช้า เป็นเวลา 5 วันในสัปดาห์หน้า เพื่อเตรียมพิธีฉลองวันชาติมาเลเซีย มีการแสดงการบินผาดแผลงของกองทัพอากาศ จะจัดขึ้นในวันที่ 31 สิงหาคม



+++การสวนสนามในปีนี้ จะจัดขึ้นที่เมืองปุตราจายา ซึ่งเป็นเมืองศูนย์กลางการบริหารประเทศ และอยู่ใกล้กับสนามบินเคไอแอลเอ และเคไอแอลเอ 2 ซึ่งเป็นสนามบินสำหรับสายการบินราคาประหยัดด้วย ทำให้เที่ยวบินทั้งหมด 498 เที่ยวบินทั้งเดินทางเข้าและออกจากสนามบินทั้งสองได้รับผลกระทบจากการปิดน่านฟ้า



+++การปิดน่านฟ้ามีความสำคัญ เนื่องจาก จะทำให้แน่ใจว่าการแสดงการบินสำหรับการฉลองวันชาติในปีนี้จะดำเนินไปอย่างราบรื่นและเพื่อให้เกิดความปลอดภัยของเครื่องบินต่าง ๆ ที่มาใช้ท่าอากาศยาน ซึ่งการปิดน่านฟ้า ส่งผลให้เที่ยวบินต้องล่าช้ากว่ากำหนด กระทรวงขนส่ง ขอให้ประชาชนติดต่อสอบถามรายละเอียดจากเจ้าหน้าที่สนามบินและสายการบินเกี่ยวกับตารางการบิน



+++นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ยืนยัน ระหว่างการเยือนกรุงปักกิ่งของจีนว่า จะยกเลิกโครงการ 3 โครงการ มูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 728,925 ล้านบาทที่จีนให้การสนับสนุนจนกว่ามาเลเซียจะหาทางชำระหนี้ที่ค้างอยู่ได้ โครงการดังกล่าว ได้แก่ โครงการรถไฟเชื่อมชายฝั่งตะวันออกของมาเลเซียกับภาคใต้ของไทยและกรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซียและโครงการท่อส่งแก๊สอีก 2 โครงการ พร้อมทั้งชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวต้องมีการกู้ยืมเงินจำนวนมาก มาเลเซียไม่สามารถที่จะจ่ายคืนได้ ดังนั้น จึงยังไม่จำเป็นต้องมีโครงการดังกล่าวในเวลานี้ และ ปัญหาที่มาเลเซียต้องแก้ไขให้ได้ในเวลานี้ ก็คือปัญหาด้านการคลัง ทั้งนี้ ผู้นำมาเลเซีย กำลังพยายามหาทางลดภาระหนี้สินของประเทศ มีจำนวนสูงถึง 250,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 8.28 ล้านล้านบาท



+++นางอองซาน ซูจี ผู้นำสูงสุดของเมียนมา กล่าวในการบรรยายในที่ประชุมแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ว่าปัญหาก่อการร้ายในรัฐยะไข่ของเมียนมา ยังเป็นภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศและอาจจะส่งผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคงของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถ้าปัญหาด้านความมั่นคงยังไม่ได้รับการแก้ไข มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุรุนแรงระหว่างชาวพุทธกับมุสลิม จะกระทบต่อความมั่นคงไม่เฉพาะเมียนมาเท่านั้น แต่จะกระทบต่อความมั่นคงของประเทศอื่นๆในภูมิภาคนี้และทั่วโลก



+++นายยุทากะ มุรากาวา ประธานเสนาธิการของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเล(เอ็มเอสดีเอฟ)ของญี่ปุ่น ระบุว่า ญี่ปุ่นและกองทัพเรือ จากประเทศอื่นๆในเอเชียและกองทัพเรือสหรัฐฯจะร่วมซ้อมรบทางเรือในทะเลจีนใต้และมหาสมุทรอินเดียเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์หน้าไปจนถึงปลายเดือนตุลาคม ภารกิจนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์เรื่องการเดินเรือในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกอย่างเสรีและอิสระของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่มุ่งจะช่วยเสริมสร้างสันติภาพและความมั่นคงให้เกิดขึ้นในภูมิภาค



+++เรือพิฆาตลำใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นคือเรือคากะและเรือลำอื่นๆของญี่ปุ่นจะไปเยือน 5 ประเทศรวมถึงฟิลิปปินส์, อินโดนีเซียและอินเดีย พร้อมกับกองเรือสหรัฐฯที่ประจำอยู่ในภูมิภาคนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ให้มากขึ้นกับกลุ่มประเทศในแถบมหาสมุทรอินเดีย หลังจีน เริ่มแผ่ขยายอิทธิพลทางทหารและทางเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้มากขึ้นเรื่อยๆ



+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 92 เซ็นต์ ปิดที่ 67.35 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 42 เซ็นต์ ปิดที่ 72.63 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล มาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯในภาคพลังงานของอิหร่าน จะมีผลบังคับใช้ในเดือนพฤศจิกายน ผู้เชี่ยวชาญบางส่วน คาดหมายว่า มาตรการคว่ำบาตรจะทำให้น้ำมันของอิหร่านหายไปจากตลาดราว 1 ถึง 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เชื่อว่ายุโรป, ญี่ปุ่น,เกาหลีใต้และอินเดีย จะทำตามแรงกดดันของสหรัฐฯที่ขอให้ลดการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่าน



+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก 4 วันติดต่อกัน เอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติตลอดกาลรอบใหม่ระหว่างการซื้อขาย เอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 5.91 จุด ปิดที่ 2,862.96 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 38.17 จุด ปิดที่ 7,859.17 จุด และดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 63.60 จุด  ปิดที่ 25,822.29 จุด เจ้าหน้าที่สหรัฐฯและจีน จะจัดประชุมกันในสัปดาห์นี้ เพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้า



+++ราคาทองคำ ขยับขึ้นพอสมควร หลังความเห็นของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เกี่ยวกับนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ส่งผลกระทบทางลบต่อดอลลาร์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 5.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,200.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์



CR:NHK



 



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X