เอกวาดอร์ประกาศใช้มาตรการสกัดกั้นผู้อพยพชาวเวเนซุเอล่า

เอกวาดอร์ประกาศใช้มาตรการใหม่เพื่อหวังยับยั้งการเดินทางเข้าประเทศของผู้อพยพชาวเวเนซุเอล่า ส่งผลให้มีชาวเวเนซุเอล่าตกค้างอยู่ในโคลัมเบียจำนวนมาก เนื่องจากโคลัมเบียเป็นประเทศที่คั่นกลางระหว่างเวเนซุเอล่ากับเอวาดอร์ ตามการประมาณการณ์ของทางการโคลัมเบียระบุว่า ในรอบ 15 เดือนที่ผ่านมามีผู้อพยพมากกว่า 1 ล้านคนเดินทางข้ามพรมแดนเข้าสู่โคลัมเบีย และเดินทางต่อเข้าไปยังพรมแดนเอกวาดอร์เฉลี่ยวันละมากกว่า 4,000 คน ส่วนใหญ่ใช้การเดินเท้าและการโบกรถ ผู้อพยพเหล่านี้ ต้องการหนีจากความแร้นแค้นและความอดอยาก เนื่องจากวิกฤติทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศที่สะสมมานานหลายปี โดยมีปลายทางอยู่ที่เปรูและชิลี ซึ่งที่ผ่านมา ทั้งโคลัมมเบียและเอกวาดอร์อนุญาตให้ชาวเวเนซุเอล่าเดินทางเข้าประเทศได้โดยใช้เพียงบัตรประจำตัวประชาชน แต่มาตรการใหม่ของเอกวาดอร์กำหนดให้ต้องมีหนังสือเดินทางเข้าประเทศหรือพาสปอร์ตอย่างถูกต้องด้วย ซึ่งแน่นอนว่า รัฐบาลโคลัมเบียไม่เห็นด้วย และระบุว่าจะทำให้กลุ่มผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้ต้องติดอยู่ตามแนวพรมแดน นอกจากนี้ยังทำให้รัฐบาลเปรูประกาศใช้มาตรการเรื่องหนังสือเดินทางเข้าประเทศเช่นกัน โดยจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ เพื่อควบคุมจำนวนชาวเวเนซุเอล่าที่เดินทางเข้าเปรู ส่วนที่บราซิล มีรายงานว่าชาวบราซิลในเมืองปาคาไรมา บริเวณพรมแดนติดต่อกับเวเนซุเอล่าได้โจมตีค่ายผู้อพยพชาวเวเนซุเอล่า จนทำให้ผู้อพยพต้องถอยกลับเข้าไปในฝั่งเวเนซุเอล่า โดยชาวเมืองอ้างเหตุผลในการโจมตีว่า เพราะผู้อพยพได้ก่อเหตุปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายเจ้าของร้านอาหารท้องถิ่นแห่งหนึ่ง

...

**12.19F174**