การเสวนาวิชาการในหัวข้อ “การเมืองกับคนรุ่นใหม่” ที่จัดโดยคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีตัวแทนจาก 5 พรรคการเมือง ได้แก่ นายวราวุธ ศิลปอาชา ว่าที่หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา, นางสาวขัตติยา สวัสดิผล อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย, นายชวน ชูจันทร์ ผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ นักการเมืองรุ่นใหม่จากพรรคประชาธิปัตย์ เข้าร่วมงานเสวนา นายวราวุธ ระบุว่า ที่ผ่านมานักการเมืองรุ่นเก่าได้สร้างปัญหาให้สังคมไทยมาตลอดหลายปี สังคมไทย ต้องการการเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ มองว่า การจะสร้างประเทศไทยในขณะนี้เปรียบเหมือนการสร้างบ้านที่คนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่าต้องร่วมมือกันพัฒนาประเทศ ส่วนตัวยังเชื่อว่าการเมืองของคนรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ยังไม่ต่างกันนัก
ด้านนายธนาธร กล่าวว่า ยี่สิบปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเกิดการรัฐประหารกว่า 3 ครั้ง จนเหมือนประเทศอยู่ในมุมมืดมาตลอด เพราะถูกปกครองด้วยระบบเผด็จการและขาดวิถีทางประชาธิปไตย ทำให้มีปัญหาด้านเสรีภาพ และการเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติที่ทุกคนควรจะได้มากกว่านี้ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ การที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ที่มีอายุเฉลี่ยกว่า 64 ปี ต้องมาเป็นผู้ร่างยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี หรือ การออกกฎระเบียบบังคับนักศึกษาในเรื่องทรงผมหรือเครื่องแต่งกายต่างๆ รวมถึง เรื่องที่ประเทศมีผู้แทนในสภาที่มีอายุเฉลี่ยมากขึ้นเรื่อยๆ ตัวอย่างทั้งหมดนี้เเสดงให้เห็นถึงการไม่ได้ตอบโจทย์คนรุ่นปัจจุบันที่กำลังจะเติบโตไปในอนาคต
ส่วนนายพริษฐ์ มองว่า ปัจจุบันสังคมคาดหวังกับคนรุ่นใหม่มากกว่าปกติ จากสภาพสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ส่วนตัวมองว่าคนรุ่นใหม่จะเข้ามามีบทบาทในการสร้างประเทศในระดับที่มีความเสมอภาคระหว่างกันมากขึ้น คือ สังคมจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าโดยมีระดับทางสังคมที่ใกล้กันมากขึ้น ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนรุ่นใหม่จะต้องทำงานกับคนรุ่นเก่า แต่ก็เชื่อว่าคนรุ่นใหม่จะดึงคนรุ่นเก่าพัฒนาประเทศไปได้
ขณะที่นางสาวขัตติยา บอกว่า ปัจจุบันสังคมเรียกร้องให้คนรุ่นใหม่ มีส่วนร่วมทางการเมืองและสังคมต่อเนื่อง แต่หลายครั้งไม่เคยถามว่าคนรุ่นใหม่ ต้องการในสิ่งใดบ้าง ส่วนตัวมองว่าเพียงแค่การสะท้อนความเห็นหรือการสะท้อนนโยบายก็มีส่วนร่วมได้แล้ว สิ่งสำคัญมากในขณะนี้คือ การเร่งลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร