ปลัดจ.พระนครศรีอยุธยา ขอให้ทุกคนช่วยภาครัฐ กำจัดผักตบชวา และวัชพืช ในคลองข้าวเม่า

การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และแก้ไขปัญหาน้ำท่วม นายกรัฐมนตรี ได้ดำเนินโครงการ การพัฒนาลำน้ำกับชีวิตบนวิถีแห่งความพอเพียง เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทุกแห่งคัดเลือกชุมชนต้นแบบจังหวัดละ 1แห่ง ส่งให้กับสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อวิเคราะห์ปัญหา และจำแนกชุมชนต้นแบบที่เข้าร่วมโครงการทั้ง 76 แห่ง ออกเป็น 3กลุ่ม ดังนี้ กลุ่มที่ 1. ชุมชนที่มีปัญหาผักตบชวา จำนวน 21แห่ง ปัญหาของผักตบชวาตามลำน้ำทำให้ขวางทางไหลของน้ำ น้ำสกปรก เน่าเสีย น้ำตื้นเขิน โดยได้แก้ไขด้วยการกำจัดผักตบชวา ลอกแหล่งน้ำ และนำผักตบชวามาแปรรูป กลุ่มที่ 2. ชุมชนที่มีปัญหาวัชพืช จำนวน 24 แห่ง ปัญหาของวัชพืช และขยะตามลำน้ำทำให้เป็นอุปสรรคต่อการสัญจร น้ำเน่าเสีย และตื้นเขิน โดยจะแก้ไขด้วยการกำจัดพืช ขยะ ขุดลอกแหล่งน้ำ และจะนำวัชพืช ขยะมาแปรรูปฟื้นฟู และพัฒนาลำน้ำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว กลุ่มที่ 3. ชุมชนที่มีปัญหาน้ำเน่าเสียและแหล่งน้ำตื้นเขิน จำนวน 31 แห่ง จากปัญหาลำน้ำตื้นเขิน มีขยะสะสม เกิดการกัดเซาะและพังทลายของดิน การชะล้างสารเคมีผิวดิน และน้ำเน่าเสีย มีการแก้ไขร่วมกันด้วยการขุดลอกแหล่งน้ำ กำจัดขยะวัชพืชและฟื้นฟูระบบนิเวศ ทั้งนี้ จะนำขยะที่แปรรูปจากทั้ง 3กลุ่ม มาช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนอีกด้วย

การติดตามลงพื้นที่ ณ คลองข้าวเม่า ต.ธนู อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา 1ใน 21แห่ง ที่มีปัญหาผักตบชวา และประสบภัยน้ำท่วมเมื่อปี 2554 นำโดยนายคมสัน เจริญอาจ ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และประชาชนกว่า 300คน ช่วยกันกำจัดผักตบชวาในคลองข้าวเม่า ที่มีเป็นจำนวนมาก บริเวณหน้าวัดขุนทิพย์ อ.อุทัย ในกิจกรรม “kick off กำจัดผักตบชวา และวัชพืช” ตามนโยบายคลองสวยน้ำใส และหน้าบ้านน่ามองในรูปแบบประชารัฐ

นายคมสัน  กล่าวว่า นอกจากการแก้ไขเรื่องผักตบชวาแล้ว ที่สำคัญคือเรื่องหน้าบ้านน่ามอง ให้มองปัญหาผักตบชวาเหมือนฝุ่น เราต้องเก็บกวาดทุกวัน หากปล่อยทิ้งไว้นานก็จะเป็นปัญหา รวมทั้งในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีแม่น้ำ ลำคลองอยู่มาก หากไม่จำกัดก็จะเกิดปัญหาน้ำเน่าเสียตามมา เน้นย้ำว่าเราเป็นคนในบ้าน ต้องดูแลรักษาพื้นที่ให้ดี อย่ารอเพียงภายนอกเข้ามาช่วย แต่ให้ทุกคนช่วยกันคนละเล็กละน้อยไปพร้อมๆกันกับภาครัฐ โดยคาดหวังว่ากิจกรรม “kick off กำจัดผักตบชวา และวัชพืช” นี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ในการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ตามแม่น้ำลำคลอง และป้องกันปัญหาน้ำท่วมได้

ผู้สื่อข่าว:วริศรา ชาญบัณฑิตนันท์