+++ความเดือดร้อนหลังจากเกิดฝนตกหนักทั่วทุกภาคของอินเดียตั้งแต่ภาคเหนือลงไปถึงภาคใต้ ทำให้เกิดน้ำท่วมและดินสไลด์ โดยเฉพาะในรัฐเกรละ เป็นพื้นที่ที่เสียหายจากน้ำท่วมมากที่สุด มีคนเสียชีวิต 217 ศพ ฝนตกหนักที่สุดในรอบ 90 ปี ส่วนเหตุน้ำท่วมใน 5 รัฐทางภาคใต้ มีคนเสียชีวิตรวม 900 ศพ เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศอินเดีย เตือนว่า ในบางพื้นที่อาจจะมีปริมาณฝนตกมากกว่าปกติร้อยละ 30 คาดว่า อาจจะมีฝนตกหนักต่อไปอีกราว 1 สัปดาห์ รัฐบาล ส่งกำลังทหารจากกองทัพบก,กองทัพเรือและกองทัพอากาศ ร่วมปฏิบัติการกู้ภัยและแจกสิ่งของบรรเทาทุกข์ให้ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทั่วประเทศ
+++เหตุสะพานของทางยกระดับมอเตอร์เวย์หมายเลข เอ10 พังถล่มในเมืองเจนัว ทางภาคเหนือของประเทศอิตาลี ส่งผลให้มีรถยนต์หลายคันที่อยู่บนทางหลวง ร่วงหล่นลงมาจากความสูงกว่า 100 เมตร มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39ศพ นายกฯกุยเซปเป คอนเต ของอิตาลี ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในและรอบเมืองเจนัวนาน 12 เดือน อาจต้องใช้เงินในการบูรณะถึง 5 ล้านยูโร
+++บริษัทออโตสตราด เปอร์ ลิตาเลีย กลุ่มบริหารจัดการทางด่วนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ คือผู้ดำเนินการโครงการดังกล่าวยืนยันว่า ตรวจสอบความปลอดภัยของสะพานที่มีระยะทาง 1.2 กม. เป็นประจำและอย่างละเอียด หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น หุ้นของบริษัทดิ่งลงร้อยละ 25 ตั้งแต่เช้าวันพฤหัสบดี หลังจากร่วงหนักถึงร้อยละ 50 ในการซื้อขายนอกเวลาก่อนเปิดตลาด
+++ นายลุยจิ ดีไมโอ รองนายกฯอิตาลี กล่าวว่า บริษัทของรัฐจะเข้าบริหารกิจการทางหลวงพิเศษอิตาลี หากบริษัทเอกชนที่ได้รับสัมปทานไม่สามารถดำเนินการได้ตามข้อกำหนดในการทำงานที่ถูกต้องเหมาะสม
+++ประเทศบัลแกเรีย ตรวจสอบและปรับปรุงสะพานทั้งหมด 211 แห่งในประเทศ ส่วนใหญ่มีอายุการใช้งานมานานแล้วระหว่าง 35-40 ปี อยู่ในสภาพทรุดโทรม บัลแกเรียเป็นหนึ่งในประเทศที่ฐานะทางเศรษฐกิจไม่มั่นคงเมื่อเทียบกับสมาชิกอื่นๆในกลุ่มสหภาพยุโรปหรืออียู จึงได้รับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจจากประเทศอื่นๆในยุโรป ในการปรับปรุงและพัฒนาสาธารณูปโภคให้มีความทันสมัย
+++ศาลมาเลเซีย มีคำชี้ขาดว่าคดีที่ผู้หญิง 2 คน คือ น.ส.วานถิ เฮือง ชาวเวียดนาม และน.ส.สิติ ไอสิอะห์ ชาวอินโดนีเซีย ถูกกล่าวหาว่าใช้สารทำลายประสาทวีเอ็กซ์ในการสังหารนายคิม จองนัม พี่ชายต่างมารดาของนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่สนามบินในกรุงกัวลาลัมเปอร์เมื่อปีก่อน มีมูลมากพอที่จะไต่สวนต่อไป แม้ว่าครอบครัวของจำเลยทั้งสองคัดค้านว่าทั้งสองถูกชาวเกาหลีเหนือกลุ่มหนึ่งหลอกให้เข้ามากระทำความผิดคือหลอกว่าเป็นการถ่ายทำรายการโทรทัศน์เรียลลิตี้โชว์ในลักษณะหยอกล้อกันเล่นเท่านั้น
+++พนักงานอัยการในฐานะโจทก์ ยื่นแสดงพยานหลักฐานต่างๆเพื่อที่ศาลจะชี้ขาดว่าพยานหลักฐานของโจทก์มีน้ำหนักเพียงพอที่จะดำเนินการไต่สวนต่อไปหรือควรยกฟ้อง หลังเสร็จการรับฟังหลักฐานจากพนักงานอัยการแล้ว นายอัซมิ อาริฟฟิน ผู้พิพากษาที่เป็นองค์คณะที่รับผิดชอบคดี มีคำชี้ขาดว่า หลักฐานต่างๆของโจทก์เพียงพอที่จะรับฟังประกอบการพิจารณาคดีต่อไป พร้อมทั้งนัดไต่สวนครั้งต่อไปเดือนพฤศจิกายน
+++นายอตัล พิหารี วัจปายี อดีตนายกรัฐมนตรีอินเดีย 3สมัยช่วงระหว่างปี 2541-2547 ถึงแก่อสัญกรรมแล้วในวันพฤหัสบดีที่ 16 ส.ค. หลังจากป่วยเรื้อรังมานาน รวมอายุ 93 ปี นายอตัล พิหารี วัจปายี เป็นผู้นำฮินดูชาตินิยมซึ่งเมื่อปี 2541 เคยสั่งให้ทดลองระเบิดนิวเคลียร์จนทำให้เกิดความหวาดวิตกว่าจะเกิดสงครามปรมาณูกับปากีสถาน แต่ต่อมาได้เจรจาเพื่อสันติกับรัฐบาลปากีสถาน และนายวัจปายี ยังเป็นทั้งกวีและนักการเมือง
+++นายบาอิค จู-ฮอน อดีตเอกอัครราชทูตเกาหลีใต้ประจำคาซัคสถาน ระบุว่า มีคลิปวีดีโอที่แสดงให้เห็นว่าพลเมืองชาวเกาหลีใต้คนหนึ่งที่ถูกกองกำลังไม่ทราบฝ่ายในลิเบียจับเป็นตัวประกันเมื่อวันที่ 6 กรกฏาคม พร้อมกับตัวประกันชาวฟิลิปปินส์อีก 3 คน ยังมีสุขภาพแข็งแรงดี เขาเปิดเผยในวันนี้หลังเดินทางไปที่ลิเบีย เพื่อช่วยให้มีการปล่อยตัวพลเมืองชาวเกาหลีใต้คนดังกล่าว รัฐบาลลิเบีย อยู่ระหว่างการติดตามความคืบหน้าล่าสุดของกลุ่มติดอาวุธเพื่อให้ทราบว่าเรียกร้องอะไรและจะช่วยประสานงานเพื่อให้คนร้ายปล่อยตัวประกันโดยเร็ว
+++นายบาอิค ตั้งข้อสังเกตว่า กรณีการจับตัวประกันในครั้งนี้แตกต่างจากครั้งอื่นๆคือ ครั้งนี้คนร้ายยังไม่เปิดเผยที่มาที่ไปว่าพวกเขาสังกัดกลุ่มใด ทางการลิเบีย จึงต้องใช้ความรอบคอบในการติดต่อกับกลุ่มคนร้าย แต่ในเบื้องต้นนี้ รัฐบาลลิเบียและเกาหลีใต้ เชื่อว่า ผู้จับตัวประกันอาจจะเป็นคนร้ายธรรมดา ไม่ใช่เป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองที่ชัดเจน
+++นายกฯมหาเธร์ โมฮัมหมัด ของมาเลเซีย เริ่มต้นการเดินทางเยือนจีนอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ เพื่อหาแนวทางการเจรจาใหม่หรืออาจจะถึงขั้นยกเลิกโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐบาลจีนให้การสนับสนุน ที่ลงนามกันในสมัยรัฐบาลชุดก่อนของมาเลเซีย รัฐบาลของนายมหาเธร์ ระงับโครงการหลายโครงการที่จีนให้การสนับสนุนคิดเป็นมูลค่ารวม 22,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงโครงการทางรถไฟขนาดใหญ่ นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ ให้คำมั่นว่าจะหยิบยกประเด็นที่เขาเห็นว่าเป็นเงื่อนไขไม่เป็นธรรมขึ้นมาหารือกับผู้นำจีนในระหว่างการเดินทางเยือนจีนเป็นเวลา 5 วัน
CR:BBC