นายกฯในฐานะปธ.กลุ่มปท.CLMVT แนะสมาชิกลดความขัดแย้ง เร่งพัฒนา-ต่อยอดการเกษตร

การปาฐกถาพิเศษ ทะยานสู่อนาคตด้วยเทคโนโลยี ในการเปิดงาน CLMVT Forum 2018 ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน กล่าวว่า ประเทศกลุ่ม CLMVT  ได้รับความสนใจจากทั่วโลกในฐานะภูมิภาคที่มีศักยภาพทางการค้าและการลงทุน เห็นได้จากนโยบายต่างๆที่สอดคล้องกับนานาประเทศ เช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ การจัดงานครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่กลุ่มประเทศ CLMVT จะร่วมหารือ ช่วยกันขับเคลื่อนแบบไร้รอยต่อ รวมถึงได้พูดคุยเกี่ยวกับปัญหาอุปสรรคกฎระเบียบต่างๆ ให้เกิดการขับเคลื่อนอย่างรวดเร็ว และหาทางออกร่วมกันไม่ให้เกิดช่องว่างในการพัฒนา เพราะประเทศกลุ่ม CLMVT ล้วนมีความแตกต่างกัน แต่จะต้องหาแนวทางให้เจริญเติบโตไปพร้อมกัน ส่งเสริมกันและกันมากกว่ามุ่งการแข่งขัน

นอกจากนั้น ยังได้ให้ความสำคัญกับภาคเอกชนและนักวิชาการ ซึ่งจะมีบทบาทมากขึ้น ในฐานะผู้นำนวัตกรรมที่ต้องดำเนินงานคู่ขนานกับภาครัฐ เพื่อลดความขัดแย้ง และร่วมกันส่งเสริมการพัฒนาให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กลุ่มประเทศ CLMVT เป็นประเทศเกษตรกรรมมีการปลูกพืชคล้ายกัน สิ่งสำคัญคือต้องดูการผลิตให้ตรงกับความต้องการของประเทศ ต้องพัฒนาการเกษตรเพื่อลดช่องว่าง รวมทั้งเกษตรกรเองจะต้องเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จากสิ่งที่เป็นผลกระทบทางการเกษตร คือราคาสินค้าเกษตรที่ต้องหาแนวทางร่วมกัน ในการต่อยอดแปรรูป เพิ่มมูลค่า ซึ่งขณะนี้ประเทศไทย กำลังเร่งพัฒนาโดยใช้การตลาด นำการผลิตไม่ใช่ใช้การผลิตนำการตลาด

ส่วนภาคธุรกิจจะต้องประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัล กับกระบวนการต่างๆ เพื่อยกระดับ เพิ่มประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำรวมถึงการคิดออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึง การให้บริการหลังการขายที่สามารถสร้างประสบการณ์ให้ลูกค้าได้

ด้านการผลิตสินค้า นายกรัฐมนตรี ได้ยกตัวอย่าง ข้าวที่มีทั้งตลาดบนตลาดกลางและตลาดล่าง ซึ่งจะต้องดูว่าควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เกิดการผลิตที่มากเกินไป เพราะหากมากเกินราคาจะลดลง  การแข่งขันยากขึ้นซึ่งต้องไปดูเรื่องของต้นทุนการผลิตและสิ่งสำคัญคือปัญหาหนี้สินของเกษตรกรทั้งหนี้นอกระบบและดอกเบี้ยทำให้เกิดความยากจนขึ้นตลอด โดยจะต้องมีการหารือเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาของแต่ละประเทศ

ทั้งนี้ กระบวนการไปสู่ดิจิทัล จะส่งผลให้เกิดการค้ารูปแบบใหม่มีการค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น ทำให้สินค้าขายดีและมีราคาถูกเพราะมีการขายตรงกับผู้บริโภค สิ่งสำคัญคือจะต้องควบคุมคุณภาพและจัดส่งให้ตรงเวลาซึ่งขึ้นอยู่กับระบบการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ด้วย  ซึ่งเศรษฐกิจดิจิทัลนั้นจะต้องเติบโตคู่กับเศรษฐกิจท้องถิ่นเชื่อมโยงทั้งภายในและภายนอกประเทศให้เกิดความเข้มแข็ง โดยทั้งหมดนี้ถือเป็นความท้าทายที่จะต้องช่วยกันในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อพัฒนา ซึ่งการจัดงานนี้ก็จะถือเป็นการต่อยอดให้ทั้ง 5 ประเทศ ได้ร่วมมือและเติบโตไปด้วยกัน

สำหรับการจัดงาน CLMVT Forum 2018 จัดขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจการค้าการลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMVT ประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทยเป็นเวทีสร้างความร่วมมือในภูมิภาคให้เติบโตแข่งขันได้ ท่ามกลางความท้าทายและบริบท เศรษฐกิจการค้าโลกในยุคใหม่ มุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ