ครม.เห็นชอบแผนปฏิบัติการร่วมป้องกัน-แก้ไขยาเสพติดไทยเมียนมา

14 สิงหาคม 2561, 15:15น.


 หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมเห็นชอบหลักเกณฑ์ประชุมหารือผลักดันแผนการประชุมเชิงนโยบายการส่งเสริมระหว่างประเทศความร่วมมือผลักดันแผนปฏิบัติการร่วม ว่าด้วยความร่วมมือทางด้านการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดนระหว่างไทยและเมียนมาตามที่พลอากาศเอกประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รายงานในที่ประชุม หวังพัฒนาศักยภาพระหว่างประเทศ และสกัดกั้นการรั่วไหลสารตั้งต้นรวมทั้งเคมีพันธุ์ ไปยังแหล่งผลิตใหญ่สามเหลี่ยมทองคำ โดยทั้งสองประเทศเห็นตรงกันในการยกระดับความร่วมมือระหว่างประเทศในทุกด้านตามนโยบายของรัฐบาลโดยมีแผนปฏิบัติการร่วม  8 ข้อ ประกอบด้วย การเสริมสร้างแนวการวางจุดตรวจและจุดสกัดกั้นยาเสพติดตามแนวชายแดน  ให้ทั้งสองประเทศลาดตระเวนตามแนว แม่น้ำโขงในฝั่งของประเทศตนเอง ร่วมกันเฝ้าระวังสกัดกั้นสารเคมีที่จะนำไปผลิตเป็นยาเสพติดได้และจะต้องมีการประยุกต์แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศเพื่อรู้เท่าทันการผลิตยาเสพติด ดำเนินการสืบสวนและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง



พร้อมยกระดับการสืบสวน ดำเนินการต่อพื้นที่และบทบาทสำคัญที่สุ่มเสี่ยงต่อการเป็นแหล่งผลิตหรือพักยาเสพติด พัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศ ขยายความร่วมมือจากการป้องกันเป็นการรักษาเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบยาเสพติดฟื้นฟูสมรรถภาพของผู้เสพและผู้ติดยาเสพติด สนับสนุนมาตรการในการพัฒนาการแก้ไขพื้นที่หมู่บ้านตามแนวชายแดนเพื่อขจัดความยากจน สร้างอาชีพอย่างมั่นคงให้ประชาชนในพื้นที่ นายกรัฐมนตรีได้รับทราบและสั่งการ ให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลักการทั้ง 8 ประการไปปฏิบัติอย่างเต็มกำลังความสามารถ



ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้รับทราบกฎกระทรวงมหาดไทย ที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดลักษณะ อาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม โดยเห็นชอบขยายระยะเวลาการปรับสภาพอาคารที่จากเดิมต้องแล้วเสร็จภายใน 2 ปี โดยจากเดิมกำหนดสิ้นสุดในวันที่ 18 สิงหาคม 2561 ขยายระยะเวลาออกไปสิ้นสุด ในวันที่ 18 สิงหาคม 2564 นอกจากนั้นยังเปลี่ยนแปลงรายละเอียดจากให้อาคาร 3 ชั้น เป็นอาคาร 4 ชั้น ที่ต้องใช้วัสดุกันไฟ และเสริมสร้างมาตรการเพิ่มเครื่องมือในการระงับอัคคีภัยในอาคารให้มากขึ้น โดยจะติดตั้งระบบส่องสว่างและถังดับเพลิงแบบมือถือ ทุก 200 ตารางเมตร ทั้งนี้กฎกระทรวงดังกล่าวเป็นการพัฒนาเศรษฐกิจทางด้านการท่องเที่ยวเมืองรอง

ข่าวทั้งหมด

X