นายกฯยืนยันปฎิรูปการเมือง ไม่ปิดกั้น เดือนก.ย.มีคำตอบ

หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี  พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยกรณีความเคลื่อนไหวของกลุ่มสามมิตรในการพบปะประชาชน รับข้อเสนอและปัญหาตามพื้นที่ต่างๆ และรับปาก โดยอ้างว่าจะประสานผู้ใหญ่ฝ่ายบริหารผลักดันหาทางแก้ไข ว่า ส่วนตัวยังไม่ทราบว่ากลุ่มดังกล่าวอยู่พรรคไหน แต่พรรคอื่นก็ยังมีการเดินสายอยู่ พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำการปิดกั้น พร้อมขออย่ากังวลเนื่องจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)กำลังจับตาอยู่ ซึ่งเมื่อไหร่ที่เกินเลยก็จะต้องดำเนินการ พร้อมย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร  พร้อมระบุว่าการที่มีการด่าทอกันผ่านโลกโซเชียล ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ และทำให้สร้างความขัดแย้ง จึงถามกลับว่าจะสามารถปฏิรูปประเทศได้อย่างไร

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการปฏิรูปก่อนการเลือกตั้งว่า  ได้ดำเนินการในหลายส่วนทั้ง รัฐธรรมนูญ บทเฉพาะกาล ม.44 โดยขอให้ทุกฝ่ายช่วยกัน พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ต้องการสืบทอดอำนาจเพียงแต่ไม่ต้องการให้ปัญหา ที่เคยเกิดขึ้น กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก 

ส่วนกรณีนักการเมืองหน้าใหม่ในแต่ละพรรคที่จะส่งเข้ามารับเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี ระบุ ว่า  เป็นเรื่องที่ประชาชนจะต้องจับตาและเป็นผู้ตัดสินใจ ขณะเดียวกันนักการเมืองเก่าบางคนประชาชนก็ยังคงนิยมชมชอบ ซึ่งเป็นปัญหาที่ต้องสร้างความเข้าใจว่าการที่จะได้รัฐบาลที่มีธรรมาภิบาลจะต้องเป็นอย่างไร ดังนั้นใครที่จะเข้าสู่การเมืองในวันข้างหน้าจะต้องมีการปรับปรุงตัว และใครที่ไม่ได้มีข้อห้ามทางกฎหมายก็คงไม่สามารถห้ามไม่ให้ลงเลือกตั้งได้ แต่ทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับประชาชนเป็นผู้เลือก ซึ่งรัฐบาลมีหน้าที่ไปดูเรื่องการเลือกตั้งให้มีความโปร่งใส ปราศจากการทุจริต

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ เคยกล่าวไว้ว่าเดือนกันยายนนี้ จะได้ความชัดเจนในทิศทางการเมืองของตนเอง ว่า ขณะนี้ยังไม่ใช่เดือนกันยายน ซึ่งไม่ว่าทิศทางส่วนตัวจะเป็นอย่างไร ก็ต้องดูอีกครั้ง ก่อนว่ากฎหมายตามรัฐธรรมนูญระบุจะอยู่ในฐานะอะไร หรือจะไปอยู่พรรคใด ซึ่งหากอยู่พรรคการเมืองใดแล้วประชาชนไม่เลือก ตนเองจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อได้อย่างไร ดังนั้นขอให้รอให้ถึงเดือนกันยายนก่อนจะเปิดเผยเอง

สำหรับการปลุกระดมของนักการเมือง ที่อยู่ต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีระบุว่า ขณะนี้ มีการตรวจสอบอยู่ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพราะก่อนหน้าก็เคยเตือนแล้ว รวมถึงให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาการสนับสนุนนักการเมืองต่างๆ ที่มาจากคนนอก โดยไม่ใช่พิจารณาแล้ว พอถูกบังคับใช้กฎหมาย ก็มองว่าไม่เป็นธรรม กลับกลายเป็นเรื่องที่มีปัญหากันไม่จบสิ้น จึงอยากขอให้สื่อบางสื่อช่วยเข้าใจตรงนี้ด้วย ขณะเดียวกันตนเองก็เคยอยู่ต่างประเทศ แต่ละประเทศมีกฎหมายแตกต่างกัน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องทำทุกอย่างให้ครบ