ทันสถานการณ์โลก 14 สิงหาคม 2561

14 สิงหาคม 2561, 06:04น.


สำนักข่าววีโอเอ รายงานว่า นายวูดดี้ จอห์นสัน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักรเขียนบทความลงหนังสือพิมพ์ซันเดย์ เทเลกราฟ เตือนนายกรัฐมนตรี เทเรซา เมย์ แห่งสหราชอาณาจักรให้ยืนอยู่ข้างสหรัฐฯ แทนที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกับสหภาพยุโรป หรืออียูในเรื่องการใช้มาตรการลงโทษอิหร่าน มิเช่นนั้นสหราชอาณาจักรจะเผชิญกับการตอบโต้ และจะเกิดผลกระทบทางเศรษฐกิจ



นับเป็นครั้งแรกที่นักการทูตสหรัฐฯ เตือนรัฐบาลสหราชอาณาจักรผ่านสื่อ เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศเป็นมิตรประเทศใกล้ชิดมาอย่างยาวนาน แต่เป็นการยกระดับการเคลื่อนไหว หลังจากที่รัฐบาลประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กำหนดมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน แทนข้อตกลงฉบับเดิมที่ทำไว้ในนามมหาอำนาจ ซึ่งอียูยังคงสนับสนุนข้อตกลงฉบับเดิม และทางกระทรวงการต่างประเทศของสหราชอาณาจักร ยืนยันว่า จะดำเนินแนวทางตามความตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านฉบับเดิม รวมถึงความร่วมมือกับอียู ที่จะลดผลกระทบจากมาตรการของสหรัฐฯ ต่อภาคเอกชน



นายกรัฐมนตรี ไฮเดอร์ อัล-อาบาดี แห่งอิรักประกาศทบทวนการมีส่วนร่วมในมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน ตามที่สหรัฐฯเป็นผู้กำหนด โดยระบุว่า อิรักจะให้ปฏิบัติเพียงการไม่ใช้เงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯในการทำธุรกรรมกับอิหร่าน จากที่เมื่อสัปดาห์ก่อน เขากล่าวแสดงความไม่เห็นด้วยกับมาตรการที่สหรัฐฯกำหนดขึ้น และจะพิจารณาเรื่องนี้โดยยึดผลประโยชน์ของอิรักเป็นสำคัญ



อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายกรัฐมนตรี อาบาดีมีคำประกาศก็ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจต่างๆ ของอิรัก อาทิ การค้าขายทองคำและโลหะมีค่า อุตสาหกรรมยานยนต์ และการเข้าซื้อดอลลาร์



ด้านธนาคารกลางของตุรกีประกาศว่าจะใช้มาตรการต่างๆ เพื่อพยุงความเชื่อมั่นของตลาดการเงินที่ผันผวนรุนแรงจากการที่ค่าเงินลีราตุรกีอ่อนค่าลงมากกว่าร้อยละ 40 แล้วนับจากต้นปีนี้ เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีปัจจัยสำคัญคือความขัดแย้งระหว่างประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป เอร์โดอาน แห่งตุรกี กับประธานาธิบดี ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จนถึงการใช้มาตรการภาษี และเรื่องที่ตุรกีคุมขังบาทหลวงนิกายโปรแตสแตนต์ชาวอเมริกัน โดยธนาคารกลางตุรกีจะปรับลดสัดส่วนทุนสำรองต่างๆ ที่กำหนดให้ธนาคารถือครอง



ด้านประธานาธิบดี เอร์โดอาน กล่าวว่า ตุรกีกำลังเผชิญกับกลอุบายทางการเมืองแบบอำพรางซ่อนเร้นอีกครั้งหนึ่ง และจะมองหาทางเลือกอื่นที่จะมาเป็นหุ้นส่วน



กรมกิจการฝ่ายพลเรือนประจำมณฑลยูนนานเปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 18 คนจากเหตุแผ่นดินไหว 5 แมกนิจูดที่มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ส่งผลกระทบต่อประชาชนมากกว่า 48,000 คนมีบ้านเรือนเสียหายมากกว่า 6,000 หลัง



จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งที่เกาะลอมบอก อินโดนีเซีย พบผู้เสียชีวิต 436 ศพบาดเจ็บ 1,300 คนและมีผู้ไร้ที่อยู่อาศัยประมาณ 353,000 คนแล้ว โดยเจ้าหน้าที่พบศพผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ภายใต้ซากอาคารต่างๆหลายแห่ง และมีการคาดการณ์ว่า แผ่นดินไหวจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 342 ล้านดอลลาร์



นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ โมฮัมหมัด แห่งมาเลเซีย ประกาศตามหาเครื่องบินส่วนตัวมูลค่า 35 ล้าน 4 แสนดอลลาร์ของนายยโฮ โล นักการเงิน ที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่า เขานำเงินจากกองทุนวันเอ็มดีบีไปซื้อเมื่อปี 2553 และเป็นส่วนหนึ่งของเงินจำนวน 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่มีการนำไปใช้ซื้อเรือสำราญ ภาพวาดของศิลปินชื่อดัง เครื่องประดับ และอสังหาริมทรัพย์อื่นๆ โดยเมื่อสัปดาห์ก่อน นายโลเพิ่งคืนเรือยอชต์มูลค่า 250 ล้านดอลลาร์ให้กับทางการมาเลเซีย ส่วนเครื่องบินส่วนตัวที่นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ประกาศตามหาลำนี้ พบว่าจอดอยู่ที่สิงคโปร์เมื่อปีก่อน แต่ทางการสิงคโปร์ไม่ยืนยัน ส่วนตัวนายโล ซึ่งเป็นอดีตที่ปรึกษาของกองทุนถูกรัฐบาลมาเลเซียออกหมายจับ และถูกถอนหนังสือเดินทาง แต่ยังไม่ทราบว่าเขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่ใด



นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี มหาเธร์ ยังพิจารณาที่จะขึ้นราคาขายน้ำให้แก่สิงคโปร์อีกมากกว่า 10 เท่า เพื่อนำเงินมาชำระหนี้ของประเทศ เขากล่าวว่า มีความจำเป็นที่จะต้องมีการทบทวนข้อตกลงขายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคเพื่อสะท้อนถึงค่าครองชีพ เนื่องจากข้อตกลงฉบับนี้ทำไว้นานหลายสิบปีแล้ว และเป็นหนึ่งในความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ เนื่องจาก มาเลเซียขายน้ำให้แก่สิงคโปร์ในราคา 3 เซนมาเลเซีย (0.7 เซนต์สหรัฐ) ต่อ 1,000 แกลลอน ในขณะที่รัฐยะโฮร์ของมาเลเซียขายน้ำให้แก่รัฐมะละกา ซึ่งอยู่ในมาเลเซียเช่นกัน ในราคา 30 เซนมาเลเซียต่อ 1,000 แกลลอน



ราคาน้ำมันตลาดโลกปรับลดลง เนื่องจากกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกเพิ่มสูงขึ้น 41,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม แม้ซาอุดีอาระเบียจะลดกำลังการผลิต



สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 43 เซ็นต์ ปิดที่ 67.20 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 1.49 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ด้านตลาดหุุ้นสหรัฐฯในวันจันทร์ ดาวโจนส์ ลดลง 125.44 จุด หรือร้อยละ 0.50 ปิดที่ 25,187.70 จุด



เอสแอนด์พี ลดลง 11.35 จุด หรือร้อยละ 0.40 ปิดที่ 2,821.93 จุด



แนสแดค ลดลง 19.40 จุด หรือร้อยละ 0.25 ปิดที่ 7,819.71 จุด



ข่าวทั้งหมด

X