สรุปข่าวค่ำ วันที่ 13 สิงหาคม 2561

+++พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึง ราคาพืชผลทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าวว่า ในช่วงนี้มีราคาดี เพราะต่างประเทศประสบภัยธรรมชาติ จึงมีความต้องการสินค้าข้าวสูง แต่หากในปีต่อไป เราปลูกข้าวมากขึ้นจนเกินความต้องการของตลาด ก็จะทำให้ราคาตกต่ำลงอีกเป็นวัฏจักร นายกฯ เน้นย้ำว่า ปัญหาหลักของภาคการเกษตร คือต้นทุนการผลิตสูง เกษตรกรมีหนี้สินทั้งในระบบและนอกระบบ ทำให้ต้องขายที่ดินให้นายทุน และเช่าที่เพื่อทำกิน สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน รัฐบาลจึงอยากให้ทุกฝ่ายหันมาร่วมกันแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง

+++นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จุดอ่อนของการทำการเกษตรแบบอิสระ คือ การแบกรับภาระต้นทุนที่สูง และเมื่อต่างคนต่างทำ จึงขายไม่ได้ เพราะตลาดไม่ต้องการ แต่หากมีการรวมกลุ่มผลิตสินค้าที่สอดคล้องกับตลาดก็จะทำให้ขายได้ จึงต้องมีการรวมกลุ่มเป็นสหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน หรือเกษตรแปลงใหญ่ เพื่อลดต้นทุน เพิ่มปริมาณและคุณภาพ สร้างอำนาจต่อรองให้ตัวเอง รวมทั้งทำไร่นาสวนผสม ลดปริมาณพืชที่ปลูกอยู่เพียงชนิดเดียวไปปลูกพืชอื่นทดแทน และเลี้ยงสัตว์เป็นรายได้เสริม

ผลผลิตทางการเกษตรชนิดอื่น เช่น มันสําปะหลัง อ้อย ยางพารา สับปะรด ฯลฯ ทุกอย่างใช้หลักการเดียวกัน หากประสบปัญหาราคาตกต่ำ และรัฐบาลต้องรับซื้อในราคาสูง เมื่อขายไม่ได้ก็ยิ่งขาดทุน และกระทบต่องบประมาณของประเทศ ดังนั้น ทุกคนจะต้องช่วยกันเพื่อให้เกษตรกรมีชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

+++ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(สทนช.) ระบุว่า อ่างเก็บน้ำที่ความจุเกินร้อยละ 100 ขนาดใหญ่ 2 แห่ง เขื่อนน้ำอูนร้อยละ 103 เขื่อนแก่งกระจาน ร้อยละ 102  ขนาดกลาง 15 แห่งอยู่ในภาคอีสาน 12 แห่ง และ ภาคตะวันออก 2 แห่ง ภาคใต้  1 แห่ง

+++ส่วนอ่างเก็บน้ำที่เฝ้าระวัง มีปริมาตรน้ำร้อยละ 80-100 ขนาดใหญ่ 3 แห่ง เขื่อนศรีนครินทร์ ร้อยละ 88 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากเมื่อวาน เขื่อนวชิราลงกรณ ร้อยละ 86 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากเมื่อวาน เขื่อนรัชชประภา ร้อยละ  86 เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 จากเมื่อวาน ขนาดกลาง 57 แห่ง แยกเป็น ภาคเหนือ 5 แห่ง ภาคอีสาน 43 แห่ง ภาคตะวันออก 6 แห่ง ภาคกลาง 1 แห่ง และภาคใต้ 2 แห่ง

+++สทนช. สรุปสถานการณ์น้ำล่าสุดเตือนพื้นที่เฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วม เช่น ริมแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณ อ.แก่งกระจาน อ.ท่ายาง อ.บ้านลาด อ.เมือง อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี การบริหารจัดการน้ำ มีการตัดยอดน้ำก่อนผ่านเขื่อนเพชร ยังต้องเฝ้าระวัง ทั้งนี้ ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยงที่อาจจะมีน้ำเอ่อเข้าท่วมพื้นที่และชุมชน จำนวน 31 เครื่อง (สำรอง 5 เครื่อง) ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำเพื่อเร่งระบายน้ำในจุดที่มีการระบายน้ำได้ช้า จำนวน 38 เครื่อง (สำรอง 8 เครื่อง) เตรียมพร้อมยานพาหนะและเครื่องจักรกล เช่น รถขุดตัก จำนวน 20 คัน ประจำในพื้นที่เพื่อขุดเปิดทางน้ำ

+++นอกจากนี้ ยังมีการเตือนระวังน้ำในแม่น้ำกระบุรี อ.กระบุรี อ.ละอุ่น และอ.เมืองระนอง จังหวัดระนอง แม่น้ำตะกั่วป่า อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ด้วย    

+++ภาพรวมเศรษฐกิจไทย  นายวิชญายุทธ บุญชิต รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เปิดเผยว่า ภาคเอกชน ปรับตัวรองรับปัญหาไว้แล้ว ไม่น่าห่วงมากนัก ในส่วนกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยปกติแล้ว มักจะเกิดขึ้นมากในช่วงไตรมาส 4 ของปี ทั้งเรื่องการค้า การลงทุนภาครัฐและเอกชน การส่งออก และแม้จะมีปัญหาอุทกภัยเกิดขึ้นหลายพื้นที่ สศช.จึงมองว่าปัญหาน้ำท่วมเบาบางกว่าปีก่อน ทั้งนี้ สศช.จะประกาศจีดีพีไตรมาส 2 อย่างเป็นทางการในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ขณะที่ สถาบันจัดอันดับเครดิตของต่างชาติ ทยอยเข้ามาเก็บข้อมูลในประเทศ เพื่อประเมินทบทวนจัดอันดับเครดิตของประเทศไทย และหลายสำนักมีมุมมองต่อประเทศไทยในเชิงบวกมากขึ้นและมีความเชื่อมั่นต่อการดำเนินนโยบายทางเศรษฐกิจ

+++ส่วนไตรมาสแรกปี 2561 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยดี ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(จีดีพี)ขยายตัวร้อยละ 4.8 สศช.คาดว่าไตรมาส 2 อัตราการขยายตัวจะไม่ต่ำกว่าหรือไม่แตกต่างจากไตรมาสแรก เพราะมีปัจจัยบวกหลายด้าน แม้มีปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ที่ประกาศมาตรการตอบโต้กันและกันระลอกที่ 2 อย่างรุนแรง แต่เมื่อไทยไม่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายจึงไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เพราะผลกระทบจะเกิดขึ้นทันทีเมื่อประกาศเพิ่มอัตราจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าของประเทศคู่กรณี

+++พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง เรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จะตรวจสอบกรณีการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมือง ทั้งที่ผ่านมา กลุ่มสามมิตร ระบุว่า เดินสายเพื่อรับฟังความเห็นให้รัฐบาลว่าเรื่องดังกล่าวทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย เพราะทุกอย่างอยู่บนพื้นฐานของกฎหมาย ดังนั้น หากมีกฎกติกา ระบุว่า ห้ามทำอะไรโดยพรรคการเมืองหรือโดยกลุ่มการเมือง ก็ต้องห้ามทำ ซึ่งจะถูกหรือไม่ถูกก็ต้องไปดูหลักเกณฑ์ในข้อกฎหมาย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องเป็นผู้ดำเนินการ หากกกต. เห็นว่าไม่เหมาะก็ต้องไปดำเนินคดี

+++สำนักข่าวซินหัวของทางการจีน รายงานอ้างจากศูนย์ควบคุมน้ำท่วมมณฑลเจ้อเจียงว่า พายุไต้ฝุ่น ยางิ ได้พัดเข้าถล่มมณฑลเจ้อเจียงแล้วเมื่อก่อนเที่ยงคืนของวันอาทิตย์ ด้วยความเร็วลม ใกล้ศูนย์กลาง 102 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทางการ สั่งอพยพประชาชน 204,949 คนใน 10 เมืองของมณฑลเจ้อเจียง เช่น ไถ้โจว, โจวซาน และเหวินโจว พร้อมทั้งให้เรือประมงร่วม 21,000 ลำกลับเข้าสู่ฝั่งเพื่อความปลอดภัย พายุไต้ฝุ่นยางิ จะทำให้เกิดฝนตกหนัก แต่จะค่อยๆอ่อนกำลังลง ขณะเคลื่อนตัวอย่างช้าๆขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ

+++ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวจีน รายงานเหตุแผ่นดินไหวขนาด 5.0 เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.44 น.วันนี้ตามเวลาจีน เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง ศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดินเพียง 7 กิโลเมตรในเมืองยู่ซี มีผู้บาดเจ็บ 5 คน นำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะนี้ อาการทรงตัว บ้านเรือนเสียหายบางส่วนหรือทั้งหมด 18 หลัง ไฟฟ้าและการสื่อสารในบางพื้นที่ได้รับผลกระทบ สำนักงานแผ่นดินไหวมณฑลยูนนานได้ส่งเจ้าหน้าที่รับมือเหตุฉุกเฉินไปยังที่เกิดเหตุแล้ว และกำลังดำเนินการกู้ภัยบรรเทาทุกข์

+++รอยเตอร์ รายงานอ้างกระทรวงต่างประเทศจีนว่า นายกรัฐมนตรีมหาเธร์ โมฮัมหมัดของมาเลเซีย จะเดินทางไปเยือนจีน 5 วัน เริ่มจากวันศุกร์นี้ ในการเยือนครั้งนี้นายมหาเธร์ จะพบกับนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงและประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ก่อนหน้านี้ นายมหาเธร์ วัย 93 ปี เข้ามาบริหารประเทศในเดือนพฤษภาคมหลังชนะพรรครัฐบาลของอดีตนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค และรัฐบาลชุดปัจจุบัน อยู่ระหว่างการทบทวนโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายโครงการที่ลงนามโดยรัฐบาลชุดก่อน ระบุว่า หลายโครงการไม่คุ้มค่ากับการลงทุนของมาเลเซีย ในจำนวนนี้ รวมถึงโครงการรถไฟของจีน ซึ่งนายมหาเธร์ ระบุว่า ไม่เป็นธรรมและรัฐบาลมาเลเซียจะเจรจากับรัฐบาลจีนเพื่อขอแก้ไขข้อตกลงใหม่

แฟ้มภาพ