ตร.ท่องเที่ยวขอให้ผู้เสียหายจากเครือข่าย OD Capital แจ้งความเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ติดตามเงินคืน

การขยายผลจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่าย OD Capital ที่หลอกลวงประชาชนให้ร่วมลงทุน พลตำรวจตรี สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) จับกุมผู้บริหารและแม่ทีมระดับสูง ในเครือข่าย OD Capital ได้ 29 ราย หลบหนี 3 ราย ต่อมามีผู้มาร้องเรียนเพิ่มเติมจนสามารถขออำนาจศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 16 ราย ล่าสุดจับกุมได้ 10 ราย ติดต่อขอมอบตัว 2 ราย หลบหนี 4 ราย และอยู่ระหว่างติดตามจับกุม 1 รายทราบว่าอยู่ต่างประเทศ

สำหรับเครือข่าย OD Capital ดำเนินการในลักษณะของบริษัทโฮลดิ้ง มีบริษัทตั้งอยู่ในอังกฤษและมาเลเซีย ประกอบการในลักษณะนำเงินไปลงทุนในบริษัทหรือกิจการอื่นๆ แต่ไม่ได้จดทะเบียนพาณิชยกิจในประเทศไทยและไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบการจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.)

พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาบางรายยังให้การปฏิเสธอยู่ แต่ตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานว่าจะสามารถดำเนินคดีได้ ขณะนี้ได้ประสานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ป.ป.ง.) ใช้มาตรการยึดทรัพย์ โดยสามารถอายัดเงินกลุ่มผู้ต้องหากว่า 130 ล้านบาท หลังจากนี้จะดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อคืนเงินให้ผู้เสียหาย พร้อมฝากผู้เสียหายที่เหลือให้เข้าแจ้งความเพิ่มเติม เพื่อยื่นคำร้องขอคุ้มครองสิทธิ์ติดตามเงินของตัวเองกลับคืน และขอให้ตระหนักคิดมากขึ้นหากจะร่วมลงทุนต่างๆ โดยสามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์ 1155

ด้านนางสาวนวพร เต่าทอง อดีตดีเจ และเป็น 1 ในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อปี 2559 นายสหรัฐ เวโรจน์ อายุ 34 ปี ซึ่งเป็น 1 ในผู้ต้องหาของเครือข่าย OD Capital ที่ถูกจับก่อนหน้านี้ ติดต่อผ่านทางเฟซบุ๊กเพื่อทำความรู้จักแล้วชักชวนให้ร่วมลงทุนประมาณ 2 แสนบาท โดยให้การรับรองว่าอีก 1 เดือนหลังจากนี้ จะได้เงินคืน1 เท่า แต่เมื่อถึงเวลาก็อ้างว่าระบบล็อคไม่สามารถจ่ายเงินได้ ทำให้รู้ตัวว่าถูกหลอก นอกจากนี้แล้ว นายสหรัฐ ยังหลอกเงินจากผู้หญิงอีกหลายคนให้ร่วมลงทุน จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามเพื่อให้นำเงินกลับคืนมา การเดินทางมาวันนี้ อยากจะบอกผู้เสียหายรายอื่นๆว่า ขอให้ออกมาแสดงตัวและแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ เพื่อติดตามดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป

....

ผสข.ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ