หนึ่งในคนต้นแบบแท็กซี่ทำดี ที่กรมการขนส่งทางบก จัดกิจกรรมมอบรางวัลและยกระดับเป็นพนักงานขับรถมืออาชีพ คือ นายจีระเดช บุญประเสริฐ เล่าให้ฟังว่า ได้รางวัลแท็กซี่น้ำใจงาม จากเหตุการณ์ช่วงเช้ามืด 05.00น. ของวันที่ 7 พฤษภาคม 2561 ขณะขับรถบนทางด่วน ช่วงใกล้ถึงทางลงพระราม 4 พบเห็นเพื่อนคนขับรถแท็กซี่ด้วยกันนอนเหมือนไม่ได้สติอยู่ฝั่งประตูคนขับ ศีรษะยื่นออกมาเกือบติดผิวถนน เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงขับรถไปจอดช่วยทันที และพบว่า ผู้ประสบเหตุ ไม่สามารถสื่อสารได้ ใกล้กันมีผู้โดยสารของรถผู้ประสบเหตุ ยืนตกใจอยู่ริมถนน จึงตัดสินใจโทรแจ้งจส.100 ขอความช่วยเหลือ จากนั้นไม่ถึง 5 นาทีก็มีรถตำรวจมาช่วยเหลือ จึงขอตัวไปส่งผู้โดยสารต่อ
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ได้ทำความดี คือ การช่วยชีวิตคนขับรถจักรยานยนต์ ที่ประสบอุบัติเหตุขับรถชนกับรถแท็กซี่ จนแขนหักให้ได้รับความช่วยเหลือ ในส่วนตัว รู้สึกดีใจที่ได้รางวัลนี้ และยืนยันว่า จะทำความดีต่อไปตามโอกาสที่สมควร
ส่วนการต่อยอดมอบรางวัลนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า การต่อยอดทำได้หลายรูปแบบ แต่ได้เน้นให้กรมการขนส่งทางบก เชิญทั้ง 12 คนมาเป็นต้นแบบการทำความดี เน้นย้ำว่า รถแท็กซี่ทุกคันจะต้องติดตั้งมิเตอร์และไม่ปฏิเสธผู้โดยสาร ซึ่งเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดของรถแท็กซี่ ยอมรับว่าการปฏิเสธผู้โดยสารยังมีเป็นระยะ ขอให้ร่วมมือกันจัดการ หากผู้ใดพบเห็นให้แจ้งสายด่วน 1584 ทันที กรมการขนส่งทางบก จะดำเนินการในทุกกรณี นอกจากนี้ จะส่งผู้ตรวจการ ลงตามจุดสำคัญของตัวเมือง เพื่อตรวจจับรถแท็กซี่ที่ทำผิด
ด้านนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า การปฏิเสธผู้โดยสาร ยังเป็นข้อร้องเรียนรถแท็กซี่สูงที่สุด แม้ในปีนี้อัตราร้องเรียนจะลดลงกว่าเดิมร้อยละ 5-8 ส่วนการติดตั้งระบบจีพีเอสในรถแท็กซี่ มุ่งเน้นรถแท็กซี่ที่จดทะเบียนใหม่เป็นหลัก แต่หากรถแท็กซี่รุ่นเก่าที่ยังไม่หมดอายุใช้งานจะมาติดก็ทำได้ ขณะนี้ ติดตั้งเป็นรถแท็กซี่โอเค ไปแล้ว 10,000 คัน ตั้งเป้าหมายว่าภายในปีนี้ต้องได้ 20,000 คัน และจะต้องมีรถแท็กซี่ VIP เพิ่มขึ้นเป็น 120 คัน
ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร