การปรับปรุงสวนสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่สวนสมเด็จย่า 84 พรรษา เพื่อตรวจความเรียบร้อยการปรับปรุงพื้นที่ในการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนที่สัญจรไปมา นายจักกพันธุ์ กล่าวว่า ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่อยู่จำนวน37แห่ง ในปีนี้มีแผนปรับปรุงจำนวน21แห่ง ซึ่งสวนสมเด็จย่า 84 พรรษา มีเนื้อที่กว่า3ไร่ ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนี้เช่นกัน เพราะบริเวณใกล้เคียงมีห้างสรรพสินค้าและรถไฟฟ้าใต้ดิน อีกทั้งประชาชนยังสามารถเดินลัดเลาะผ่านสวนสมเด็จย่า 84 พรรษา จากฝั่งถนนพหลโยธิน ข้ามสะพานไปยังสวนจตุจักรได้
ทั้งนี้ สวนสมเด็จย่า 84 พรรษา มีสภาพชำรุด ทรุดโทรม ไฟฟ้าดับ จึงต้องมีการปรับปรุงให้สวยงาม และเน้นในเรื่องของความสว่างและความปลอดภัยเป็นหลัก คาดว่าจะปรับปรุงแล้วเสร็จช่วงกลางเดือนกันยายน
จากนั้นนายจักกพันธุ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยการก่อสร้างทางเดินเชื่อม3สวนสาธารณะ ระหว่างสวนวชิรเบญจทัศน์ สวนจตุจักร และสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ คาดว่า จะเสร็จในช่วงเดือนกันยายน ซึ่งการจะรวม3สวนสาธารณะเข้าด้วยกัน มีถนนกำแพงเพชร 3 ที่เป็นของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) กั้นอยู่ระหว่างกลาง จึงได้หารือร่วมกับรฟท.และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก(คจร.) ขอปิดจราจรในถนนดังกล่าว เพื่อความปลอดภัยของประชาชนที่มาออกกำลังกาย และขอให้สำรวจความคิดเห็นประชาชนก่อนภายในสิ้นเดือนสิงหาคม
นอกจากนี้ แต่ละแห่งยังมีการปรับปรุงพื้นผิวทางเดิน ทางวิ่งให้มีความเรียบ ไม่ขรุขระ คาดว่าจะเสร็จภายในเดือนสิงหาคม และยังมีการทำทางวิ่งมินิมาราธอน ในระยะทาง10.5กิโลเมตร ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกแบบ ถือเป็นอีก1กิจกรรมของประชาชนที่จะได้วิ่ง3สวนสาธารณะพร้อมๆกัน โดยการปรับปรุงสวนสาธารณะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร นายจักกพันธุ์ ยืนยันว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนแปลงเอกลักษณ์ของแต่ละแห่ง เนื่องจากว่าการสร้างสวนสาธารณะในอดีตมีความเป็นมาอยู่แล้ว เช่น สวนจตุจักร จะเป็นเรื่องของวรรณคดี,สวนวชิรเบญจทัศน์ จะเป็นสวนแห่งครอบครัวและสวนสมเด็จย่า 84 พรรษา จะเป็นสวนแห่งความสามัคคี
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ