หุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงตามตลาดหุ้นทั่วโลก กังวลวิกฤติค่าเงินของตุรกี

ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 82 เซนต์ ปิดที่ 67.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 74 เซนต์ ปิดที่ 72.83 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

รายงานประจำเดือนของทบวงพลังงานสากล ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์พลังงานโลกอีก 110,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 1.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2019 พร้อมระบุว่าอุปทานโลกเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อเดือนที่แล้ว เนื่องจาก กำลังการผลิตที่สูงขึ้นในรัสเซียและโอเปก

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงหนักตามตลาดหุ้นอื่นๆทั่วโลก จากวิกฤตค่าเงินในตุรกี สร้างความกังวลว่า อาจลุกลามเข้าสู่ตลาดอื่นๆ

ขณะเดียวกัน อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงลง นักลงทุน เข้าซื้อพันธบัตรสหรัฐฯในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากการทรุดตัวลงของค่าเงินลีราของตุรกี หลังจากที่ธนาคารกลางยุโรป แสดงความกังวลว่าการร่วงลงของค่าเงินลีรา จะกระทบต่อธนาคารยุโรป ดาวโจนส์ ลดลง 196.09 จุด  ปิดที่ 25,313.14 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 20.30 จุด ปิดที่ 2,833.28 จุด แนสแดค ลดลง 52.67 จุด ปิดที่ 7,839.11 จุด

ค่าเงินลีราของตุรกี ลดลงร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯในวันศุกร์ ทำให้ตลอดทั้งสัปดาห์ค่าเงินลีราอ่อนค่าลงถึงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ และหากนับตั้งแต่ต้นปี ค่าเงินลีรา ดิ่งลงมากกว่าร้อยละ 40 แล้ว นักลงทุนกังวลว่า จะส่งผลกระทบต่อธนาคารต่างๆในยุโรป ล่าสุด ค่าเงินได้รับผลกระทบกรณีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ สั่งการให้เพิ่มอัตราภาษีต่อเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากตุรกีขึ้นอีก 2 เท่า

ส่วนราคาทองคำในวันศุกร์ ปิดลบเล็กน้อย จากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น ทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 90 เซนต์ ปิดที่ 1,219.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์

CR:CNN