การแถลงข่าวการบริหารจัดการแบบบูรณาการ แก้วิกฤติน้ำท่วมในห้วงฤดูฝน ปี 2561 นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เปิดเผยว่า ภาพรวมในปีนี้มีแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาชัดเจนมากขึ้น ที่ผ่านมามีการเตรียมการล่วงหน้าก่อนฤดูฝน ให้มีการบูรณาการข้อมูลหน่วยงานด้านน้ำของประเทศที่มีอยู่กว่า 38 หน่วยงานให้เดินหน้าในทิศทางเดียวกัน และการบูรณาการข้อมูลการพยากรณ์อากาศ การติดตามสภาพฝนและสถานการณ์น้ำ เพื่อจัดทำเป็นแผนปฏิบัติการตามช่วงเวลารองรับทุกระดับความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบให้ชัดเจน
ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน ระบุว่า มีการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนและอ่างเก็บน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมถึงตรวจสอบสภาพความมั่นคง แข็งแรงของเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ และยังดูผลกระทบด้านการเกษตร การปศุสัตว์ และการประมงอีกด้วย มีการเลื่อนเวลาเพาะปลูกออกไป เพื่อไม่ให้กระทบต่อการระบายน้ำ และให้เกษตรกรมีอาชีพเสริมจากการประมงในช่วงฤดูฝน นอกจากนี้ยังกระจายเครื่องมือไปยังพื้นที่ต่างๆ 7 จุดทั่วประเทศ
ส่วนนายวันชัย ศักดิ์อุดมไชย อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ขอประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับข่าวลวงที่เกิดขึ้น เพราะขณะนี้มีการคาดการณ์แล้วว่า ในช่วงปลายเดือนนี้ถึงเดือนกันยายน ร่องฝนจะพาดผ่านประเทศไทยในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น ยอมรับมีความกังวลในช่วงเดือนกันยายน ที่จะมีฝนมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงต้องเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขณะที่ภาคกลางและภาคเหนือ ยังไม่พบปัญหา พร้อมระบุว่า ฝนจะหยุดตกในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ส่วนภคใต้จะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนในเดือนตุลาคม
ปลายปีนี้ จะมีปรากฏการณ์เอลนีโญ ส่งผลให้ปีหน้าฝนตกน้อยลง แต่ไม่รุนแรง ไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องภัยแล้ง เพราะมีน้ำในเขื่อนเพียงพอ แต่สิ่งที่เป็นกังวลมากที่สุด คือ อุณหภูมิที่อาจจะสูงขึ้น ทะลุ 40 องศา ด้านนายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย ยืนยันว่า มีการเตรียมความพร้อมทั้งเครื่องจักรต่างๆ ทุกพื้นที่ พร้อมประสานกับเหล่าทัพ ในการเตรียมกำลังพลพร้อมช่วยเหลือประชาชน และสั่งการให้มีการแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ต่างๆ ทั้งผ่านวิทยุชุมชน ออนไลน์ และผ่านอาสาสมัครในพื้นที่ ให้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้โดยเร็ว หากพบว่ามีวิกฤตจะสั่งการให้อพยพประชาชนออกจากพื้นที่โดยเร็ว
ส่วนพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้ จะออมาตรการควบคุมกำชับ และบังคับการเดินเรือ โดยเฉพาะเรือนักท่องเที่ยว ไม่ให้ฝ่าฝืนประกาศห้ามเดินเรือ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เรือนักท่องเที่ยวจีนล่มซ้ำรอยอีก