ทันสถานการณ์โลก 06.30 น.
+++รายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลว่า ระหว่างคืนวันพุธถึงช่วงรุ่งสางของวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น กลุ่มฮามาสระดมยิงจรวดจำนวน 150 ลูกปูพรมเข้ามาทางใต้ของอิสราเอล พบจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บในอิสราเอลทั้งหมด 19 ราย ในจำนวนนี้รวมไปถึงหญิงแรงงานไทยในวัย 30 ปี ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณท้องและแขนขาขณะจรวดได้ตกลงมาที่บ้านของเธอซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองสเดอร็อตในภูมิภาคเอสชโคล (Eshkol) ทางใต้ของอิสราเอล
+++น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานเบื้องต้น จากทางสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟแล้ว โดยมีหญิงไทยบาดเจ็บรุนแรง 1 คน และชายไทยอีก 1 คนบาดเจ็บเล็กน้อย ทั้งสองเป็นคนงาน โดยขณะเกิดเหตุทราบว่าหญิงไทยรายนี้อยู่ที่บ้าน ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟ ใช้เวลาในการเดินทางทางรถ 2 ชั่วโมง ขณะนี้ อัครราชทูตที่ปรึกษา ได้เดินทางไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลแล้ว ทั้งสองคนปลอดภัยดี ซึ่งฝ่ายหญิงมีอาการบาดเจ็บมากหน่อยแต่ตอนนี้สามารถพูดได้แล้ว
+++ฝ่ายกองทัพอิสราเอล ยังเปิดฉากตอบโต้ส่งเครื่องบินขับไล่โจมตีเป้าหมายทางการทหารของฮามาสในกาซ่า 140 จุด มีผู้เสียชีวิต 3 รายรวมไปถึงหญิงตั้งครรภ์วัย 23 ปี และบุตรทารกวัย 18 เดือน รวมไปถึงชายวัย 30 ปี บุตรชายของหนึ่งในผู้บัญชาการกลุ่มฮามาสปีกอิซ อัล-ดิน อัล-คาสซาม
+++พล.อ.วิรันโต รัฐมนตรีความมั่นคงของอินโดนีเซียและนายซูโตโป เปอร์โว นูโกรโฮ โฆษกสำนักงานลดภัยพิบัติ(บีเอ็นพีบี)ของอินโดนีเซีย กล่าวว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.9 บนเกาะลอมบอกเมื่อวันอาทิตย์ มีคนเสียชีวิตเพิ่มเป็น 319 ศพและมีผู้บาดเจ็บสาหัสราว 1,000 คน อาคารบ้านเรือน มัสยิดและร้านค้ารวมทั้งสิ้น 270,000 หลังคาทั่วทั้งเกาะลอมบอกได้รับความเสียหายในสภาพแบนราบเป็นหน้ากลอง ระบุว่าการกู้ภัยยังคงดำเนินการอยู่ในพื้นที่ต่างๆ แต่มีอุปสรรคคือต้องระวังอาฟเตอร์ช็อกที่เกิดขึ้นหลายระลอก
++++สถานทูตรัสเซีย ประจำสหรัฐฯประณามสหรัฐฯว่าลงโทษรัสเซียรุนแรงเกินไป กรณีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเปิดเผยว่า สหรัฐฯจะลงมติคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้ หลังผลสอบสวนของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรชี้มูลความผิดว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการลอบวางสารพิษเพื่อสังหารนายเซอร์เก สกริปาล วัย 66 ปี อดีตสายลับรัสเซียและบุตรสาวถูกลอบทำร้ายด้วยสารพิษทำลายประสาทกลุ่มโนวีชอกในเมืองซอลส์บรี สหราชอาณาจักรเมื่อต้นเดือนมีนาคม
+++รอยเตอร์รายงานอ้างสำนักเฝ้าระวังสิทธิมนุษยชนซีเรียว่า กองทัพซีเรียโปรยใบปลิวลงทางเฮลิคอปเตอร์ ขอให้ประชาชนในจังหวัดอิดลิบ พื้นที่ในความควบคุมของฝ่ายกบฏทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ยินยอมกลับมาอยู่ภายใต้ การปกครองของรัฐบาลและบอกให้พวกเขาทราบว่าบัดนี้สงครามกลางเมืองในซีเรียใกล้จะสิ้นสุดลงทุกขณะ โดยรัฐบาลซีเรียได้ระดมกำลังทหารเข้าไปยังพื้นที่ ซึ่งตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างจังหวัดลาตาเกียกับจังหวัดฮามา เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ในเร็วๆนี้ ด้านสหประชาชาติเตือนว่า การปราบปรามกบฏของกองทัพซีเรียที่อาจจะมีขึ้นในเร็วๆนี้อาจจะทำให้ชาวบ้าน 2.5 ล้านคนอพยพข้ามชายแดนเข้าไปยังตุรกี
+++เอเอฟพีรายงานว่าสภาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งทำหน้าที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเวเนซุเอลาและมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองที่ภักดีต่อประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร มีมติให้เพิกถอนความคุ้มกันตามรัฐธรรมนูญสำหรับสส.2 คนจากพรรคฝ่ายค้านคือนายจูลิโอ บอร์เกส อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งขณะนี้หนีเข้าไปขอลี้ภัยในประเทศเพื่อนบ้านโคลอมเบีย และอีกคนคือนายฮวน เรเกวเซนส์ เพื่อให้มีการไต่สวนคดีหลังถูกกล่าวหาว่า อยู่เบื้องหลังการใช้โดรน 2 ลำที่บรรทุกระเบิดซีโฟร์ หวังลอบสังหารนายมาดูโรในพิธีสวนสนามของทหารในกรุงการากัสเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว
+++ด้านนายทาเรค วิลเลียม ซาอับ อัยการสูงสุดเวเนซุเอลา เปิดเผยว่า ตำรวจหน่วยข่าวกรองได้เข้าจับกุมตัวนายเรเกวเซนส์ เมื่อคืนวาน เพื่อสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนกรณีของนายบอร์เกส ซึ่งขณะนี้เข้าไปขอลี้ภัยในประเทศโคลอมเบียและศาลฏีกาของเวเนซุเอลาอนุมัติหมายจับแล้ว รัฐบาลเวเนซุเอลา อยู่ระหว่างการประสานความร่วมมือกับรัฐบาลโคลอมเบีย เพื่อขอให้ส่งตัวสส.ดังกล่าวกลับไปดำเนินคดีในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
++++รองประธานาธิบดี ไมค์ เพนซ์แห่งสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(9ส.ค.) เปิดเผยรายละเอียดแผนจัดตั้ง "กองกำลังอวกาศ" ซึ่งจะกลายเป็นเหล่าทัพที่ 6 แห่งกองทัพอเมริกา ระบุถึงเวลาแล้วในการเตรียมตัวสำหรับ "สมรภูมิใหม่" เมื่อเดือนมิถุนายนที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งจัดตั้งกองทัพอวกาศ โดยอ้างว่าเพนตากอนจำเป็นต้องจัดการกับความไม่มั่นคงในอวกาศและรับประกันความยิ่งใหญ่ของอเมริกาในด้านอวกาศ ที่ต้องการให้มันกลายเป็นความจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในปี 2020
+++สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 13 เซนต์ ปิดที่ 66.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 21 เซนต์ ปิดที่ 72.07 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพฤหัสบดี(9ส.ค.) ปิดในกรอบแคบๆท่ามกลางการซื้อขายที่เบาบาง ในขณะที่หุ้นของเทสลาร่วงหนัก จากรายงานข่าว อีลอน มัสก์ ซีอีโอของบริษัท กำลังถูกสอบสวนกรณีทวีตข้อความเกี่ยวกับการซื้อหุ้นคืน ว่าเข้าข่ายกระทำผิดกฎระเบียบหรือไม่ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 74.52 จุด (0.29 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,509.23 จุด
+++ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี(9ส.ค.) ขยัลงเล็กน้อย ในขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจรอบใหม่และตัวเลขเงินเฟ้อไม่ช่วยกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,219.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์