รอยเตอร์รายงานว่าสถานทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯประณามสหรัฐฯว่าลงโทษรัสเซียรุนแรงเกินไป กรณีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐฯจะลงมติคว่ำบาตรรัสเซียครั้งใหม่ภายในสิ้นเดือนนี้ หลังผลสอบสวนของสหรัฐฯและสหราชอาณาจักรชี้มูลความผิดว่า รัสเซียอยู่เบื้องหลังการลอบวางสารพิษเพื่อสังหารนายเซอร์เก สกริปาล วัย 66 ปี อดีตสายลับรัสเซียและบุตรสาวถูกลอบทำร้ายด้วยสารพิษทำลายประสาทกลุ่มโนวีชอกในเมืองซอลส์บรี สหราชอาณาจักรเมื่อต้นเดือนมีนาคม
ที่ผ่านมารัสเซียพยายามจะปรับสัมพันธ์กับสหรัฐฯให้ดีขึ้น แต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร ขณะที่บรรดาผู้นำการเมืองและภาคธุรกิจส่วนใหญ่ของรัสเซีย รีบร้อนประเมินสถานการณ์ไปเองว่าการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกับ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียในฟินแลนด์เมื่อเดือนที่แล้วเป็นชัยชนะทางการทูตของรัสเซีย
แต่ปรากฏว่าขณะนี้ชัยชนะนั้นเริ่มกลายเป็นเรื่องหวานอมขมกลืนไปอย่างรวดเร็วสำหรับรัสเซีย เมื่อ สว.ส่วนใหญ่ของสหรัฐฯที่ไม่พอใจกรณีนายทรัมป์อ่อนข้อให้กับผู้นำรัสเซียมากเกินไป และไม่ยอมกล่าวหา นายปูตินตรงๆระหว่างการประชุมสุดยอดเมื่อเดือนที่แล้วว่า รัสเซียเข้าแทรกแซงการเมืองสหรัฐฯ จึงร่วมกันผลักดันร่างกฎหมายเรื่องนี้ จนกระทั่งผ่านการพิจารณาของสภาคองเกรส ก่อนการเสนอให้ผู้นำสหรัฐฯลงนามในคำสั่งเรื่องการคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติมปลายเดือนนี้