พนักงานสอบสวน ประชุมคดีเรือฟีนิกซ์ล่ม ติดปัญหาเรื่องกู้ซากเรือ ใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดี

วันนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประชุมชุดพนักงานสอบสวนคดีที่มีเรือบรรทุกนักท่องเที่ยวฟีนิกซ์ ไดร์ฟวิ่ง เกิดล่มกลางทะเล ที่จ.ภูเก็ต  เป็นการประชุมครั้งแรกภายหลังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีคำสั่งแต่งตั้งให้พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กำกับดูแลคดี พลตำรวจเอกรุ่งโรจน์ ในฐานะหัวหน้าพนักงานสืบสวนสอบสวน คลี่คลายคดี เปิดเผยว่า เป็นการประชุมดูความคืบหน้าคดีทั้งหมดว่ามีพยานหลักฐานในคดีอย่างไร ผลการสอบปากคำผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนอมินีนายทุนต่างชาติ ผู้จัดการบริษัท คนขับเรือ และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงจะพิจารณาประเด็นที่จะมีการสั่งการเพิ่มเติม และการประชุมวันนี้ เป็นการหารือเฉพาะกรณีเหตุเรือล่มเท่านั้น ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่มีนักท่องเที่ยวชาวจีน ยกเลิกการจองห้องพักในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจาก กรณีดังกล่าวเป็นคนละคดีกัน

ส่วนผลการตรวจสาเหตุ จากข้อมูลทราบว่าขณะนี้ยังไม่มีการกู้ซากเรือขึ้นมาจากจุดที่ล่ม เนื่องจาก ตามกฎหมายต้องให้เจ้าของเรือเป็นผู้ดำเนินการ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถติดต่อตามตัวเจ้าของเรือมาดำเนินการได้ อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของเรือไม่ดำเนินการ กรมเจ้าท่า จะเป็นผู้ดำเนินการให้ แต่จะเรียกเก็บค่าดำเนินการกับเจ้าของเรือในภายหลัง

ความคืบหน้าคดี พนักงานสอบสวนดำเนินคดีกับผู้ต้องหาแล้ว 3 ราย ในข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้มีผู้ถึงแก่ความตาย ได้รับอันตรายแก่กาย อันตรายแก่กายสาหัส ประกอบด้วย นายสมจริง บุญธรรม อายุ 50 ปี กัปตันเรือ, นายอ่อนจันทร์ กัณหาโยธี อายุ 57 ปี ช่างเครื่อง และนางสาววรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล อายุ 26 ปี กรรมการบริษัททีซีบลู ดรีม จำกัด ส่วนปัญหาอุปสรรคและข้อขัดข้องขณะนี้ คือ ยังไม่สามารถกู้ซากเรือฟีนิกซ์ ซึ่งจมอยู่ในระดับความลึก 45 เมตร ขึ้นมาได้ จึงยังไม่สามารถตรวจพิสูจน์เรือ เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐานประกอบสำนวนคดีได้

ขณะที่ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต จะดำเนินการกู้ซากเรือ คาดว่า ภายในวันที่ 12 สิงหาคม จะสามารถนำเรือขึ้นมาได้ และจะนำเรือไปขึ้นคานเพื่อตรวจสอบต่อไปว่าเรือนั้นได้มีความสมบูรณ์ มีการดัดแปลงเรือหรือไม่ โดยจะขึ้นคานไว้ 30 วัน ที่ท่ารัตนชัย เพื่อตรวจสอบร่วมกันระหว่างกรมเจ้าท่า ตำรวจเจ้าของคดี และผู้เชี่ยวชาญ

ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข