+++พายุไต้ฝุ่น ชานชาน เป็นชื่อของผู้หญิงในภาษาจีน ขณะนี้ เป็นพายุไต้ฝุ่น ระดับ 2 คาดว่าจะอ่อนตัวลงเล็กน้อยก่อนพัดเข้าใกล้ชายฝั่งตะวันออกบนเกาะฮอนชูเกาะใหญ่ของญี่ปุ่น เคลื่อนตัวเข้าใกล้กรุงโตเกียว ช่วงเช้าวันนี้ อาจทำให้เกิดฝนตกและทะเลคลื่นลมแรง ส่งผลกระทบต่อการจราจร ในชั่วโมงเร่งด่วน ก่อนที่จะอ่อนกำลังลงกลายเป็นพายุโซนร้อนและเคลื่อนตัวสู่มหาสมุทรแปซิฟิก
+++สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่น เตือนว่า กรุงโตเกียวและพื้นที่โดยรอบ อาจมีฝนตกหนักวัดปริมาณน้ำฝนได้สูงถึง 350 มิลลิเมตรในช่วง 24 ชั่วโมงจนถึงช่วงเที่ยงของวันนี้ ขณะที่ ความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางของพายุอาจสูงถึง 180 กม./ชม.
+++โทรทัศน์เอ็นเอชเค รายงานว่า ทางการ สั่งยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกจากสนามบินหลัก 2 แห่งของกรุงโตเกียว รวมแล้วกว่า 130 เที่ยวบินเพื่อความปลอดภัย
+++ญี่ปุ่น เผชิญภัยธรรมชาติซ้ำแล้วซ้ำเล่านับตั้งแต่ต้นเดือนก.ค. เกิดน้ำท่วมหนักและดินถล่มทางตะวันตก มีผู้เสียชีวิตกว่า 200 ศพ รายงานระบุว่า ภาคตะวันตกของญี่ปุ่น จะไม่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นลูกใหม่ จากนั้นได้รับความเดือดร้อนจากคลื่นอากาศร้อนวัดอุณหภูมิได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 41.1 องศาเซลเซียส มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 132 ศพ เมื่อนับถึงวันที่ 5 ส.ค.
+++สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองมาตารัม ประเทศอินโดนีเซีย ว่านายมูฮัมหมัด ไซนูล มัจดี ผู้ว่าราชการจังหวัดนูซาเติงการา โดยมีขอบเขตการดูแลครอบคลุมเกาะลอมบอก ที่เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.9 เมื่อวันอาทิตย์ กล่าวว่า รัฐบาลท้องถิ่นมีทรัพยากรที่จำกัด ผู้ประสบภัยยังต้องการความช่วยเหลือแทบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องอุปโภคและบริโภค ตลอดจนความช่วยเหลือด้านการแพทย์ เนื่องจาก โรงพยาบาลประจำเมืองและสถานพยาบาลขนาดเล็กอีกหลายแห่งได้รับความเสียหายด้วย
+++ขณะที่ สภากาชาดอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า หมู่บ้านหลายแห่งในเขตลอมบอกเหนือ "พังราบเป็นหน้ากลอง" เช่นเดียวกับระบบโครงสร้างพื้นฐานหลายแห่งที่เสียหายจนถึงขั้นถูกตัดขาดบางช่วง พื้นที่การเกษตร ได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง แต่เกษตรกรส่วนใหญ่สมัครใจอาศัยอยู่ในพื้นที่ต่อไป เพราะต้องการดูแลปศุสัตว์และพื้นที่เกษตร
+++ด้านสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของอินโดนีเซีย ( บีเอ็นพีบี ) รายงาน จำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ที่อย่างน้อย 130 ศพ บาดเจ็บอีกมากกว่า 230 คน ขณะเดียวกัน ประชาชนมากกว่า 156,000 คน เป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย
+++บีบีซี รายงานว่าเฟซบุ๊ค ยักษ์ใหญ่ด้านสื่อออนไลน์ของสหรัฐฯ แสดงความเสียใจ กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊คบางคนของอินโดนีเซีย โพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหว แต่ปรากฏว่าระบบฟีเจอร์ของเฟซบุ๊คเข้าใจผิด คิดว่าเป็นงานรื่นเริง ยินดี จึงแสดงภาพเคลื่อนไหวเป็นลูกโป่งและกระดาษสีที่โปรยในงานรื่นเริง ต่อมาเฟซบุ๊คได้ปิดฟีเจอร์ดังกล่าวในอินโดนีเซีย และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต
+++นายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศลาว เปิดเผยความคืบหน้าในพื้นที่ประสบภัยและแนวทางในการรับมือของรัฐบาลจากสถานการณ์น้ำท่วม ว่า ภารกิจแรกที่รัฐบาลต้องดำเนินการก็คือ การค้นหาผู้สูญหายอย่างต่อเนื่อง ราว 100 คน รัฐบาลต้องการเครื่องมือในการช่วยค้นหาด้วย
+++ภารกิจที่ 2 ก็คือ การฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะการซ่อมแซมถนนไปยังพื้นที่ประสบภัยหลังถูกกระแสน้ำพัดเสียหาย ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก
+++ภารกิจที่ 3 ก็คือ การแจกจ่ายอาหาร และภารกิจหลักสุดท้ายก็คือ การจัดหาอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมทั้งรถพยาบาล และเวชภัณฑ์ ทางการลาว กำลังประเมินมูลค่าความเสียหายทั้งหมด และร่างแผนแม่บทสำหรับการตั้งถิ่นฐานใหม่และฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยเพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ อุทกภัยครั้งนี้นับว่าร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของลาว มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 34 คน และสูญหายอีกราว 100 คน
+++นายกฯฮุน เซนของกัมพูชา ประกาศเลื่อนกำหนดการตั้งรัฐบาลชุดใหม่หลังพรรครัฐบาลคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปลายเดือนว่า กัมพูชา เปิดประชุมรัฐสภาในวันที่ 5 กันยายน และจะตั้งรัฐบาลชุดใหม่ในวันที่ 6 กันยายน เป็นการเลื่อนขึ้นเร็วกว่ากำหนดเดิมในวันที่ 20 กันยายน และในตอนบ่าย ก็จะมีพิธีสาบานตนของรัฐบาลชุดใหม่ คณะรัฐบาลชุดใหม่ จะเริ่มเปิดประชุมเป็นครั้งแรกในวันที่ 7 กันยายน เพื่อให้นายกฯฮุนเซน มีเวลาสำหรับการเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ครั้งที่ 73 ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯในวันที่ 18 กันยายน
+++รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มเติมในอัตราร้อยละ 25 วงเงิน 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยให้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 23 สิงหาคมนี้ เมื่อเดือนเมษายน สำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐฯ หรือ ยูเอสทีอาร์ ประกาศรายการสินค้าจีนจำนวน 1,100 รายการที่จะถูกเรียกเก็บภาษีนำเข้าในอัตราร้อยละ 25 มูลค่ารวม 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม เริ่มบังคับใช้กับสินค้ากลุ่มแรก 818 รายการ วงเงิน 34,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจีนตอบโต้ด้วยการออกมาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯในอัตราและวงเงินที่เท่ากัน ล่าสุดคือการเรียกเก็บภาษีสินค้ากลุ่มที่ 2 วงเงิน 16,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ถูกผู้ประกอบการอเมริกันทักท้วง และนักเศรษฐศาสตร์ มีความเห็นว่าการใช้มาตรการภาษีตอบโต้กันระหว่างประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจไม่สามารถแก้ไขปัญหาการค้าที่ไม่สมดุล
+++กระทรวงต่างประเทศจีน แถลงว่า ความสัมพันธ์ทางธุรกิจของจีนกับอิหร่านเปิดกว้าง โปร่งใส และเป็นไปตามกฎหมาย ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯประกาศว่า บริษัทใดก็ตามที่ยังคงทำธุรกิจกับอิหร่านทั้งที่มีมาตรการคว่ำบาตรจะไม่สามารถติดต่อธุรกิจกับสหรัฐฯ ได้ จีน คัดค้านมาโดยตลอดกรณีที่สหรัฐฯประกาศมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านแต่เพียงฝ่ายเดียว
CR: nhk