กทม.ย้ำ ต้องจัดระเบียบถนนข้าวสาร ให้ขายได้7วัน เริ่มวันนี้18.00-24.00น.

การจัดระเบียบทางเท้าบนถนนข้าวสาร หลังกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้หารือกับตัวแทนผู้ค้า และมีข้อยุติว่าจะอนุญาตให้ สามารถกลับมาขายบนทางเท้าได้วันนี้เป็นวันแรก เบื้องต้น 1 สัปดาห์ ตั้งแต่ 18.00 - 24.00 น.

นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยืนยันไม่ได้ทำให้ผู้ค้าเลิกขายของในถนนข้าวสาร แต่ต้องทำความเข้าใจว่าจุดดังกล่าว ที่ขายมาอย่างยาวนานนั้น ไม่ใช่จุดผ่อนผัน ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมาย หากกรุงเทพมหานครไม่ดำเนินการให้ถูกต้องก็จะถือว่าเป็นการละเลยการปฏิบัติหน้าที่ แล้วเหตุใดจึงไม่ทำให้จุดสำคัญของกรุงเทพมหานครนี้ถูกกฎหมาย เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ซึ่งตามแผนตั้งแต่ปี 2557 คือการให้ผู้ค้าลงไปขายริมผิวถนน แต่ยังคงติดข้อจำกัดเรื่องกฎหมายในการออกข้อบัญญัติ ดังนั้นเพื่อหาข้อยุติร่วมกัน จึงจะมีการเชิญกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาพูดคุยกันในวันพฤหัสบดีหรือวันศุกร์นี้ เพื่อหาแนวทางแก้ไขหากมีข้อสรุปออกมาอย่างไร ก็ต้องดำเนินการตามแนวทางนั้น รวมทั้งอาจมีการเสนอข้อสรุปนี้ต่อนายกรัฐมนตรีด้วย หากจุดนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เพราะตัวเองไม่สามารถจะตัดสินใจเพียงผู้เดียวได้

ซึ่งระหว่างนี้จะอนุโลมให้ผู้ค้าตั้งแผงบนทางเท้าได้ตั้งแต่เวลา 18.00 - 24.00 น. ภายใต้พื้นที่ 1.50 เมตร และลงชื่อแจ้งกับสำนักงานเขต ซึ่งปัจจุบันมีแจ้งชื่อมาแล้ว 230 ราย พร้อมเน้นย้ำให้สำนักงานเขต คัดกรองผู้ค้าอย่างดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดกรณีนำแผงค้าไปเช่าต่อขณะเดียวกัน ยังเตรียมทำประชาพิจารณ์ให้ผู้ค้าและประชาชนบริเวณใกล้เคียงได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดระเบียบในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย นำมาใช้ประกอบการพิจารณาในการประชุมกับหน่วยงานต่างๆด้วย

ส่วนที่คนมองว่า ถนนข้าวสารมีชื่อเสียงมาจากการรวมตัวของกลุ่มผู้ค้า โดยที่กรุงเทพมหานครไม่เคยเข้าไปมีส่วนร่วมสนับสนุน รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า  ถนนข้าวสารได้รับความนิยมมาจากที่พักโรงแรมที่นักท่องเที่ยวมาพัก ทำให้เกิดกลุ่มผู้ค้ามาขายของ อีกทั้งกรุงเทพมหานครก็ยังเข้าไปช่วยดูแลเรื่องของความสะอาดและเก็บขยะตามจุดต่างๆ เสมอ ยืนยันแม้จะถูกโจมตี หรือบางส่วนมองว่าทำให้เสน่ห์ของถนนข้าวสารหายไป แต่ก็ยอมไม่ได้ หากถนนข้าวสารจะไม่เป็นระเบียบ ใครอยากทำอะไรก็ทำ ขณะเดียวกันจะพยายามช่วยผู้ค้าอย่างดีที่สุดให้กลับมาขายของได้ด้วยความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนผลกระทบด้านการท่องเที่ยว ในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ก็ไม่ยอมให้ต่างชาติมาชื่นชอบในจุดที่ไม่สะอาดของบ้านตัวเอง ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมีทั้งผู้ที่ชื่นชอบการจัดระเบียบและไม่ชื่นชอบเช่นกัน

แฟ้มภาพ