ทันสถานการณ์โลก 7 สิงหาคม 2561

07 สิงหาคม 2561, 06:09น.


ความคืบหน้าสถานการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง 2 ครั้งในรอบ 1 สัปดาห์ที่เกาะลอมบอก อินโดนีเซีย มีจำนวนผู้เสียชีวิตรวมกันมากกว่า 100 รายแล้ว โดยแผ่นดินไหวครั้งแรกเมื่อสัปดาห์ก่อนที่มีขนาด 6.4 มีผู้เสียชีวิต 17 ราย



ส่วนแผ่นดินไหวครั้งที่ 2 มีขนาด 7.0 ทางตอนเหนือของเกาะลอมบอก มีผู้เสียชีวิต 98 ราย บาดเจ็บอีก 209 คน อาคารบ้านเรือนเสียหายจำนวนหลายพันหลัง



สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า พื้นที่ที่เสียหายหนักที่สุดคือที่เมืองมาตารัม บ้านเรือนเสียหาย และไม่มีไฟฟ้าใช้ การสื่อสารถูกตัดขาด ทั้งต้องย้ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล สำนักงานอุตุนิยมวิทยา ภูมิอากาศวิทยา และธรณีฟิสิกส์แห่งอินโดนีเซีย (BMKG) รายงานว่ามีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นมากกว่า 120 ครั้ง ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตที่เป็นชาวต่างชาติ ประชาชนมากกว่า 20,000 คนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัย



กระทรวงกลาโหมอียิปต์ เปิดเผยว่า ฝ่ายความมั่นคงมีปฏิบัติการกวาดล้างกลุ่มรัฐอิสลามหรือไอเอสในช่วงหลายวันที่ผ่านมา สังหารผู้ต้องสงสัยอย่างน้อย 52 ราย และทำลายยานพาหนะ 32 คัน และนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่สังหารผู้ต้องสงสัยแล้วอย่างน้อย 313 ราย ขณะที่มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 35 นาย



ส่วนที่ซีเรีย กลุ่มไอเอสสังหารตัวประกันซึ่งเป็นชายอายุ 19 ปี หนึ่งในกลุ่มชนพื้นเมืองชาวดรุซจำนวนมากกว่า 30 คน ที่ถูกลักพาตัวไปเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม จากการโจมตีจังหวัดสเวดาในภาคใต้ของซีเรีย และสังหารประชาชนมากกว่า 250 ราย และการสังหารตัวประกันมีขึ้นหลังจากการต่อรองกับกองกำลังประชาธิปไตยซีเรีย หรือ เอสดีเอฟ ล้มเหลวไปก่อนหน้านี้ โดยกลุ่มไอเอสต้องการให้กลุ่มเอสดีเอฟยอมเปิดทางให้กลุ่มหลบหนีออกจากจังหวัดดาราไปยังทะเลทรายบาดิยา



จากเหตุพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีเวเนซุเอลา นายเนสเตอร์ เรเวรอล รัฐมนตรีกิจการภายในของเวเนซุเอลา แถลงว่าผู้ก่อการร้ายและนักฆ่ารับจ้างอย่างน้อย 6 คน ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับความพยายามลอบสังหารประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ด้วยการใช้โดรนติดอาวุธระเบิดโจมตี ระหว่างประธานาธิบดีมาดูโรกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเฉลิมฉลองการสถาปนากองทัพครบรอบ 81 ปี ซึ่งมีทหารได้รับบาดเจ็บ 7 นาย กระทรวงกิจการภายในระบุว่า อาชญากรรมร้ายแรงที่เกิดขึ้นนี้ เป็นผลจากการสมคบคิดทั้งจากกลุ่มภายในประเทศและต่างประเทศ โดยมีบุคคลจากโคลอมเบียและในสหรัฐให้การสนับสนุน



ต่อมากระทรวงการต่างประเทศโคลอมเบียออกแถลงการณ์ปฏิเสธ ส่วนนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านนโยบายความมั่นคงแห่งชาติประจำทำเนียบขาว ยืนยันว่า สหรัฐฯไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ครั้งนี้ ทั้งตั้งสมมุติฐานว่าจะเป็นการจัดฉากเพื่อให้ประธานาธิบดี มาดูโรนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อรักษาอำนาจต่อไป



ส่วนที่สวิสเซอร์แลนด์ เกิดเหตุเครื่องบินเล็กยุงเกอร์ เจยู 52 เอชบี-ฮ็อต ตกบนภูเขาปิซเซ็กนาส ทางตะวันออกของประเทศเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 20 คนคือผู้โดยสาร 17 คน และลูกเรือ 3 คน เจ้าหน้าที่กำลังสืบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุ เนื่องจากพยานเล่าว่าเครื่องหมุนกลับ 180 องศา แล้วก่อนที่จะตก สำหรับเครื่องบินลำนี้เดินทางมาจากรัฐติชีโนในภาคใต้มุ่งหน้าสู่ฐานทัพใกล้เมืองซูริค เป็นเครื่องบินของนักสะสม สร้างมาตั้งแต่ปี 2482 ในยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 และไม่มีกล่องดำที่ใช้จะตรวจสอบข้อมูล



กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่ามาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่ออิหร่านอย่างเต็มรูปแบบจะมีผลตั้งแต่เวลา 00.01 น. ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงวอชิงตัน ในวันอังคารที่ 7 สิงหาคมนี้ หรือ 11.00 น. ของวันที่ 8 สิงหาคมนี้ตามเวลาในไทย ซึ่งจะทำให้อิหร่านไม่สามารถสำรองเงินดอลลาร์สหรัฐได้อีก และจำกัดสินค้าส่งออกบางรายการ จากนั้นในวันที่ 4 พฤศจิกายน จะเป็นการบังคับใช้มาตรการต่อภาคพลังงาน



นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่ามาตรการของรัฐบาลสหรัฐฯ คือส่วนหนึ่งของความพยายามในการกดดันให้อิหร่านยุติกิจกรรมอันเลวร้าย และสหรัฐฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชาวอิหร่านจะมีสิทธิมีเสียงมากยิ่งขึ้นในการร่วมกำหนดทิศทางของประเทศ



ธนาคารกลางอิหร่านประกาศผ่อนคลายข้อกำหนดบางประการเกี่ยวกับการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรับแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศสามารถดำเนินการได้สะดวกขึ้น



รัฐบาลสหรัฐเผยรายงานตัวเลขการจ้างงานในเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้น 157,000 ตำแหน่ง แต่ยังน้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 190,000 ตำแหน่ง เนื่องจากการชะลอตัวในภาคการผลิตยานยนต์ การขนส่ง และการเหมืองแร่ ส่วนอัตราการว่างงานได้ลดลงราว 1 ใน 10 มาอยู่ที่ร้อยละ 3.9



ราคาน้ำมันในตลาดโลก สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 52 เซนต์ ปิดที่ 69.01 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ ปิดที่ 73.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล



ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 39.60 จุด หรือร้อยละ 0.16 ปิดที่ 25,502.18 จุด



เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.05 จุด หรือร้อยละ 0.35 ปิดที่ 2,850.40 จุด



แนสแดค เพิ่มขึ้น 47.66 จุด หรือร้อยละ 0.61 ปิดที่ 7,859.68 จุด



...

ข่าวทั้งหมด

X