เอเอฟพีรายงานอ้างสำนักข่าวอิสนาของอิหร่านว่า นายจาวัด ซาริฟ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านเปิดเผยกับนักข่าวในกรุงเตหะรานว่าสหรัฐฯเริ่มถูกนานาชาติโดดเดี่ยวมากขึ้น หลังจากมีทัศนคติที่มุ่งร้ายต่ออิหร่าน โดยเฉพาะการย้อนกลับไปใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้ง เพื่อกลบเหตุความวุ่นวายทางการเมืองในสหรัฐฯ ระบุว่า ความมุ่งร้ายและแรงกดดันทางการเมืองจากสหรัฐฯ อาจจะสร้างความปั่นป่วนให้กับอิหร่านอยู่บ้าง แต่ความเป็นจริงก็คือ สถานการณ์โลกในปัจจุบันนี้ สหรัฐฯเองต่างหากที่ถูกนานาชาติโดดเดี่ยว
ด้านสหรัฐฯจะเริ่มใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่านระลอกใหม่ โดยจะเริ่มมีผลตั้งแต่วันพรุ่งนี้ไปต้นไป หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯประกาศเมื่อเดือนพฤษภาคมว่าสหรัฐฯขอถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ที่ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก รวมถึงสหรัฐฯลงนามไว้กับอิหร่านในปี 2558 แม้ว่าประเทศผู้ร่วมลงนามอื่นๆ รวมถึงสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและเยอรมนีจะไม่เห็นด้วยก็ตาม
นอกจากนี้มีกระแสข่าวว่านายทรัมป์และประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานีของอิหร่านอาจจะนัดหมายเพื่อพบปะกันในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯปลายเดือนนี้ เมื่อพวกเขาเข้าร่วมประชุมสมัชชาใหญ่ของสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ถึงแม้ว่านายโรฮานีเคยปฏิเสธข้อเสนอเรื่องการพบปะกับนายทรัมป์ในการประชุมยูเอ็นเมื่อปีที่แล้ว