สรุปข่าวเที่ยง 3 สิงหาคม 2561

+++นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ติดตามสภาวะอากาศ ปริมาณฝนสะสม สถานการณ์น้ำ และปัจจัยเสี่ยงเชิงพื้นที่ พบว่า ช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ หลายจังหวัดบริเวณริมแม่น้ำโขง ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่งอยู่ในเกณฑ์มาก จำเป็นต้องบริหารจัดการน้ำ อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ และพื้นที่การเกษตร 

+++นอกจากนี้ ประสานให้จังหวัดที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำโขง เฝ้าระวังสถานการณ์ระดับน้ำอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมรับมือระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น โดยติดตั้งระบบสูบน้ำ บริหารการเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ เพื่อป้องกันน้ำเอ่อล้น และระบายน้ำออกตามสภาพพื้นที่ พร้อมทั้งแจ้งเตือนประชาชนให้รับทราบสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และจัดหาสถานที่ปลอดภัยรองรับการอพยพประชาชน

+++กรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และ ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เข้าจับกุมบุคคลในคดีทุจริตเงินทอนวัด รวมทั้งได้ควบคุมตัวนายเจษฎา วงศ์เมฆ อายุ 38 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช  เจ้าของร้าน เจ.เอ.ซีซีทีวี ผู้ต้องหาหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในคดีเงินทอนวัด มาสอบปากคำ โดยนายเจษฎา ให้การปฏิเสธ

+++พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก. ที่ได้เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีที่ บก.ป. เปิดเผยว่า ในส่วนของขั้นตอนคดีทุจริตเงินทอนวัด จะช้าเล็กน้อย เนื่องจาก มีขั้นตอนทางกฎหมายที่จะต้องส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.)  และรอให้ป.ป.ช. ส่งเรื่องกลับมา แต่ก็มีการประสานงานกันอยู่ เพื่อให้คดีนี้เป็นแบบอย่างให้ผู้ที่คิดจะทุจริตในกระทรวง ทบวง หรือกรมอื่นเป็นกรณีศึกษา เจ้าหน้าที่จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี ส่วนนายเจษฎา ผู้ต้องหาคดีนี้ จะมีความเชื่อมโยงอย่างไรบ้าง ยังไม่ขอเปิดเผย ยืนยันว่าทุกอย่างมีพยานหลักฐาน ศาลจึงออกหมายจับ

+++ส่วนคดีอุกฉกรรจ์ที่ประชาชนให้ความสนใจ เช่น คดีคนร้ายยิงหน้าสถานบันเทิงที่ จ.ระนอง คดียิง 2 ศพ ที่เขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี รวมถึงคดีน้องหญิงที่เสียชีวิต ใน จ.พระนครศรีอยุธยา  ซึ่งคดียิงที่ จ.ระนองกับจ.ชลบุรี เป็นคดีสะเทือนขวัญ คนร้ายเคยก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดอื่นมาก่อน  ตำรวจส่วนกลางจะลงพื้นที่ช่วยติดตามตัวคนร้ายด้วย  โดยเฉพาะคนร้ายที่ก่อเหตุในจังหวัดระนอง พบเคยก่อเหตุในพื้นที่อื่นมาก่อน เกรงว่าในพื้นที่จะเอาไม่อยู่ พร้อมฝากไปถึงครอบครัวและญาติของคนร้ายให้พาผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวภายใน 7 วัน

+++ส่วนคดียิง 2 ศพ ในจังหวัดชลบุรี สั่งการตำรวจสอบสวนกลางติดตามตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน มาดำเนินคดีซึ่งได้ประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านในการติดตามตัวแล้ว หลังมีภาพวงจรปิดปรากฎตัวที่ประเทศเพื่อนบ้าน 

+++พล.ต.ต.สมพงษ์ ชิงดวง รองผบช.น.เปิดเผยความคืบหน้า หลังผบช.น.ตั้งกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงคดีแทงกันเสียชีวิต ท้องที่ สน.ดินแดง และศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องจำเลย เนื่องจากพยานหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอ ทำให้บิดาของจำเลยเสียชีวิต ว่า คณะทำงานกำลังเร่งดำเนินการทั้งประสานข้อมูลกับอัยการในส่วนของการยื่นอุทธรณ์คดี และเรียกสอบพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด คณะทำงานจะพิจารณาในส่วนการปฎิบัติหน้าที่ของตำรวจ สน.ดินแดง ในขณะนั้นว่าทำสำนวนด้วยความรอบคอบ รัดกุมหรือไม่ และต้องตรวจสอบกรณีประจักษ์พยานที่บิดาของผู้เสียชีวิต ระบุในศาลว่ามีอาการทางจิตด้วย หากพบว่าตำรวจปฎิบัติหน้าที่บกพร่อง จะถูกลงโทษทางวินัย ยืนยันว่า คณะทำงานจะพยายามทำให้ดีที่สุด ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และช่วงบ่ายนี้ จะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อติดตามความคืบหน้าที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล

+++ราคาทองคำ ปิดตลาดเมื่อคืนนี้ลดลง 7.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,220.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รายงานข่าวสมาคมค้าทองคำ แจ้งว่า ทองคำในประเทศ ปรับลง 50 บาท โดยทองแท่ง รับซื้อบาทละ 19,050 บาท ขายออกบาทละ 19,150 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,707.44 บาท และขายออกบาทละ 19,650 บาท ราคาต่างประเทศอยู่ที่ 1,209 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33.37 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ ทองคำเมื่อวานนี้ในตลาดต่างประเทศปิดปรับตัวลดลง 8 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ปัจจัยกดดันสำคัญ ได้แก่ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ ท่ามกลางการคาดการณ์ในวงกว้างว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงจุดยืนในการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้  คาดว่า จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือน ก.ย.และธ.ค. นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง หลังจากจีน ออกแถลงการณ์ขู่จะตอบโต้ หากสหรัฐเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 ต่อสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 

+++นักเรียน นักศึกษาบังกลาเทศจำนวนหลายพันคน ร่วมชุมนุมในกรุงธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 หลังจากที่มีวัยรุ่น 2 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถโดยสารที่ขับมาด้วยความเร็วสูงและมีผลงานวิจัยของคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อปกป้องการจัดส่งทางเรือ ทางถนนและทางรถไฟ ที่ว่ามีคนเดินเท้ากว่า 4,200 คนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน เมื่อปีที่แล้ว

+++ทั้งนี้ ผู้ชุมนุมเรียกร้องให้เพิ่มมาตรการทางกฎหมายและความปลอดภัยบนท้องถนน โดยเฉพาะการตรวจสอบว่าคนขับรถโดยสาร สาธารณะทุกคนต้องมีใบขับขี่อย่างถูกต้อง แต่ปรากฎว่ามีรัฐมนตรีวิจารณ์การชุมนุมและข้อเรียกร้องก็ทำให้กลุ่มนักศึกษาไม่พอใจ ออกมาร่วมการชุมนุมมากขึ้น และชุมนุมต่อเนื่อง กระทรวงศึกษาธิการ ต้องประกาศให้โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายทั่วประเทศงดการเรียนการสอนชั่วคราวและรับข้อเรียกร้องไปพิจารณา แต่ผู้ชุมนุมยังไม่สลายการชุมนุมซึ่งนายอิมราน อาห์เม็ด แกนนำนักศึกษา กล่าวว่า ทางการควรรับข้อเรียกร้องนี้อย่างจริงจัง

แฟ้มภาพ