หลังจากที่ได้ชื่อประธานและคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ชุดใหม่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มองว่า กกต.ชุดนี้ถือว่ามีคุณสมบัติเหมาะสม ตัวประธานแม้จะเป็นอดีตเอกอัครราชทูต แต่ก็มีความเชี่ยวชาญทางกฎหมาย จึงไม่น่าห่วงเรื่องประสบการณ์ในการรับมือทางการเมือง แต่ก็คงต้องใช้เวลาศึกษาภารกิจที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และต้องแสดงความมั่นใจ ส่วนตัวขอให้กำลังใจ กกต. ต้องเร่งทำงานให้หนัก, เร็ว และต้องเป็นกลาง อย่าไปกลัวสิ่งใด พร้อมฝากให้การเลือกตั้งของไทยต้องเป็นธรรม และได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ส่วนการทำงานภายใต้มาตรา44 ส่วนตัวขอให้กำลังใจ อย่าไปเกรงกลัวสิ่งใด ให้เดินหน้าไปตามกระบวนการให้สมบูรณ์ เพราะสุดท้ายจะเป็นภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง
ส่วนกระแสการออกจากพรรคของบรรดาอดีตส.ส. ตั้งแต่นายสุรสิทธิ์ ตรีทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข่าวเตรียมเปิดตัวกับพรรคพลังประชารัฐ นายอภิสิทธิ์ ระบุว่า นาย สุรสิทธิ์ ได้ออกจากพรรคไป 7 ปีแล้ว ส่วนนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ก็คุยกันตามปกติ ไม่มีอะไร ยืนยันว่าจะยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ด้านนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ได้บอกว่า จะเว้นวรรคไม่ลงสมัครเลือกตั้งในครั้งที่จะถึงนี้
สำหรับในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่มีข่าวว่าอดีตส.ส. เตรียมหนีไปอยู่กับพรรครวมพลังประชาชาติไทยนั้น พรรคไม่ได้กังวลในการหาตัวผู้สมัครใหม่ เพราะได้เปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานทางการเมืองมากขึ้น มั่นใจว่าจะมีกลุ่มคนรุ่นใหม่เข้ามาร่วมงานกับพรรคมากขึ้น ซึ่งพรรคเปิดรับเสมอ
ด้านความเคลื่อนไหว ของ กลุ่มสามมิตรที่เตรียมดึงอดีตสส.ของพรรคไม่น้อยกว่า 10-12 คนไปร่วมงานด้วย นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตัวเองก็รับรู้มาบ้างจากการบอกกล่าว แต่ไม่ได้กังวล เชื่อว่าทุกคนมีจุดยืนทางความคิดและอุดมการณ์ ยืนยันว่าถึงขณะนี้ยังไม่มีอดีตสส.ของพรรคไปร่วมงานกับกลุ่มสามมิตร และส่วนตัวมั่นใจว่าคนของพรรคตกผลึกทางความคิดแล้ว ทั้งนี้ การทำงานการเมืองด้วยอุดมการณ์มีความยั่งยืนที่สุด หากไปยึดติดกับผลประโยชน์และตำแหน่งจะไม่ยั่งยืน
ขณะนี้มีคนจำนวนมากพร้อมมาทำงานกับพรรค ส่วนตัวยังไม่ขอมองอะไรเกี่ยวกับพรรคที่เดินหน้าดูดอดีตสส. ว่ามีความเกี่ยวข้องกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แต่ขอให้ทำอย่างเป็นธรรม ถ้าสนใจแต่ผลประโยชน์ การปฏิรูปการเมืองก็จะไม่สำเร็จ เชื่อว่า ไม่ต้องคำนวณคณิตศาสตร์ทางการเมืองใหม่ และประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบเองในวันเลือกตั้ง ส่วนพรรคแม้จะยังทำกิจกรรมทางการเมืองไม่ได้ เพราะอยู่ในช่วงห้ามพรรคการเมืองเก่า ทำกิจกรรมทางการเมือง แต่พรรคที่เพิ่งตั้งใหม่ทำได้ แต่พรรคก็ไม่เคยหยุดพัฒนาและรับฟังความเห็นประชาชนเสมอ
ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร ผู้สื่อข่าว