+++นายกฤษฏา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ สั่งการผ่านระบบประชุมทางไกลทุกจังหวัด เรื่องบริหารจัดการน้ำเพื่อบรรเทาความเสียหายจากอุทกภัย ในพื้นที่เฝ้าระวังเข้มข้น ได้แก่ จังหวัดน่าน สกลนคร ร้อยเอ็ด อุบลราชธานี นครพนม หนองคาย และมุกดาหาร โดยให้กรมชลประทาน เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ริมแม่น้ำโขง พร้อมประสานกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่ช่วยเหลือดูแลเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วม สำรวจความเสียจากน้ำท่วม ดินโคลนถล่มและเยียวยาเกษตรกร โดยเฉพาะการช่วยเหลือฟื้นฟูอาชีพ เช่น การจัดหาปัจจัยการผลิต ให้คำนึงถึงคุณภาพและปริมาณ การจัดซื้อต้องถูกต้องตามกฎหมายและให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ประสบอุทกภัย จัดทำแผนช่วยเหลือเกษตรกรที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ
+++กรณีที่เจ้าหน้าที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เข้าจับกุมและดำเนินคดี กับเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) ในคดีเงินทอนวัด นายสิปป์บวร แก้วงาม ผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ในฐานะรองโฆษกพศ.กล่าวว่า ประกอบด้วยข้าราชการบำนาญ และข้าราชการที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ต้องให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดำเนินการตามพยานหลักฐาน ดังนั้น เมื่อข้าราชการที่ถูกดำเนินคดี ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เพื่อเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ไม่ส่งผลกระทบทางการทำงานในภาพรวมของพศ. เนื่องจาก พศ.มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานไม่ให้งานได้รับผลกระทบ สำหรับการพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการ จะเป็นการพิจารณาของผู้บริหารพศ. ที่ต้องให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่ายยึดตามกฎหมายและระเบียบทางราชการ
+++นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม(รมว.วธ.) ประชุมคณะกรรมการติดตามโบราณวัตถุของไทยในต่างประเทศกลับคืนสู่ประเทศไทย ครั้งที่ 2/2561 โดยที่ประชุมได้รับรายงานกรณีนางแคทเทอรีน เอเยอร์ส แมนนิกซ์ ชาวอเมริกัน แจ้งความประสงค์ ส่งมอบโบราณวัตถุยุคก่อนประวัติศาสตร์คืนให้แก่ประเทศไทย 12 รายการ และภาพถ่ายรวมโบราณวัตถุทั้ง 12 รายการ จำนวน 1 ภาพ โดยเป็นโบราณวัตถุครอบครองส่วนตัว ยุคก่อนประวัติศาสตร์วัฒนธรรมบ้านเชียงของไทย ขณะนี้สถานทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ได้จัดส่งโบราณวัตถุทั้งหมดมาที่กระทรวงการต่างประเทศเรียบร้อยแล้ว สัปดาห์หน้า กรมศิลปากรและกระทรวงการต่างประเทศ จะร่วมกันตรวจสอบโบราณวัตถุและส่งมอบให้กรมศิลปากร เพื่อจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง
+++พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึง การจัดระเบียบแผงค้าบริเวณถนนข้าวสารและถนนรามบุตรี โดยห้ามไม่ให้ตั้งแผงค้าบนทางเท้าและให้ตั้งบนผิวจราจร ระหว่างเวลา 18.00-24.00 น. ว่าเรื่องนี้มอบหมายให้นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าฯกทม. เป็นผู้รับผิดชอบ ได้กำชับให้ดำเนินการจัดระเบียบให้ดี ซึ่งการจัดระเบียบย่านถนนข้าวสาร นายสกลธีเป็นผู้เสนอเรื่องมาที่ผู้ว่าฯกทม. ก็ได้มอบหมายให้เป็นผู้รับผิดชอบ และได้รับรายงานปัญหาของผู้ค้าแล้ว บอกให้ดำเนินการแก้ปัญหาเอง
+++น้ำมันลดราคาทุกชนิด 40 สตางค์ เว้น E85 ลด 20 สตางค์ต่อลิตร มีผล 05.00 น. วันพรุ่งนี้ 3 ส.ค. 2561 สำหรับราคาใหม่ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล วันพรุ่งนี้จะเป็นดังนี้ แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 29.65 บาท แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 29.38 บาท E20 ลิตรละ 26.74 บาท E85 ลิตรละ 21.14 บาท ดีเซล ลิตรละ 29.09 บาท
+++นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ก.ค. 2561 ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 82.2 จากระดับ 81.3 สูงสุดในรอบ 62 เดือน หรือสูงสุดในรอบ 5 ปี ตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2556 โดยพบว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนทุกรายการ โดยเฉพาะด้านการส่งออกและการท่องเที่ยวขยายตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นสัญญาณบ่งชี้ให้เห็นว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคน่าจะกลับมาดีขึ้นตามลำดับต่อเนื่อง
+++ส่วนความเชื่อมั่นผู้บริโภคเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวม ปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 69.1 จากระดับ 67.9 สูงสุดในรอบ 42 เดือนตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2558 สะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคอย่างมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม แต่ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวไม่ชัดเจน
+++การลงทุนในตลาดหุ้นไทย ปิดที่ 1,708.28 จุด ลดลง 13.73 จุด มูลค่าการซื้อขาย 53,472.74 ล้านบาท พร้อมติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ในคืนนี้ ตลาดคาดว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งหากเป็นจริงก็จะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และในวันพรุ่งนี้ ติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ
+++การลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ ดัชนีฮั่งเส่ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ร่วงลง 626.18 จุด ปิดที่ 27,714.56 จุด เนื่องจาก ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน อีกระลอก ภายหลังจากที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 25
+++ดัชนีนิเคอิ ตลาดหุ้นโตเกียว ญี่ปุ่น ร่วงลง 234.17 จุด ปิดที่ 22,512.53 จุด เนื่องจาก นักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
+++เวเธอร์คอมพานี บริษัทพยากรณ์อากาศในเครือไอบีเอ็ม เตือนว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปจะมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติไปจนถึงเดือนตุลาคม นักอุตุนิยมวิทยาของเวเธอร์คอมพานี กล่าวว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปเหนือ ยุโรปตะวันตกและสแกนดิเนเวียเผชิญฤดูร้อนที่อากาศอุ่นและแล้งมาตั้งแต่เดือนกรกฎาคม คาดว่า รูปแบบอากาศแบบนี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องไปจนถึงเดือนตุลาคมนี้
+++ซีเอ็นเอ็น รายงานอ้างร.อ.วิลเลียม เออร์แบน โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ ว่า จากการประเมินความเคลื่อนไหวทางการทหารครั้งล่าสุด สหรัฐฯ พบว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่าน ได้ส่งกองเรือกว่า 100 ลำ เข้าไปบริเวณอ่าวเปอร์เซีย ช่องแคบฮอร์มุซและอ่าวโอมาน คาดว่า อิหร่าน จะเริ่มซ้อมรบทางเรือครั้งใหญ่ในอ่าวเปอร์เซีย อีก 2 วันข้างหน้า เพื่อแสดงถึงความสามารถของอิหร่านในการปิดช่องแคบฮอร์มุซ เส้นทางเดินเรือสำคัญในการลำเลียงน้ำมันดิบจากตะวันออกกลางสู่ตลาดโลก
+++โฆษกกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯและพันธมิตร จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้มั่นใจว่า เสรีภาพการเดินเรือ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าทางเรือในน่านน้ำสากล จะดำเนินไปอย่างราบรื่น ไม่มีอุปสรรค แม้ว่า จะยังไม่พบสัญญาณที่เป็นภัยร้ายแรง แต่สหรัฐฯแสดงความกังวลเรื่องนี้ เนื่องจาก การเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานีของอิหร่านและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เปิดศึกวิวาทะกันในหลายๆเรื่อง และสหรัฐฯ จะเริ่มคว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ช่วงต้นเดือนนี้ หลังสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ ที่ 6 ชาติมหาอำนาจของโลก รวมถึงสหรัฐฯ ลงนามกับอิหร่านเมื่อปี 2558
แฟ้มภาพ