พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าเหตุฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนที่เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายนที่ผ่านมา จากการตรวจสอบดีเอ็นเอของกลุ่มผู้ต้องสงสัยทั้งหมดจนถึงขณะนี้ จำนวน 30 คน ยังไม่พบความเชื่อมโยงกับดีเอ็นเอของหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยแนวทางการสืบสวนจะยังไม่มีการตัดกลุ่มผู้ต้องสงสัยใดทิ้ง แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าคนร้ายน่าจะมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 2 คน และเป็นคนที่มีเรือเป็นพาหนะเข้าออกเกาะคืนนั้น จึงสั่งการให้ติดต่อเรือทุกชนิดที่เข้าออกเกาะขอเก็บประวัติและดีเอ็นเอของลูกเรือทุกคนเพิ่ม ยอมรับขั้นตอนการสืบสวนต้องใช้เวลามาก เนื่องจากเกาะเต่ามีประชากรหลักประมาณ 3,000 คน แต่มีแรงงานต่างด้าวมากเกือบ 5,000 คน และมีประชากรแฝงที่เข้าออกเกาะเป็นนักท่องเที่ยวอีกกว่า 10,000 คน ทั้งนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งชุดสืบสวนจากส่วนกลางลงพื้นที่ช่วยคลี่คลายคดีกับตำรวจภูธรภาค8อย่างเต็มกำลังรวมกว่า 100 นายที่เกาะเต่า โดยมีพล.ต.ต.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข เป็นหัวหน้าชุดสืบสวนระดับแนวหน้าของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมตั้งเงินรางวัลนำจับคนร้าย 200,000 บาท และทางรัฐบาลก็มีการโทรศัพท์สอบถามความคืบหน้าเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดทุกวัน
นอกจากนี้ วันนี้ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีการประชุมตามนโยบายของฝ่ายความมั่นคงรัฐบาล เรื่อง"แนวทางการแก้ไขปัญหาความมั่นคงแบบบูรณาการ เพื่อความปลอดภัยในกรุงเทพมหานคร" โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรุงเทพมหานครและการไฟฟ้านครหลวงเข้าร่วมประชุม ทางด้านพลตำรวจเอกวัชรพล ประสาทราชกิจ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ที่ประชุมสั่งการ 2 เรื่อง คือ การติดตั้งแสงไฟฟ้าส่องสว่างในจุดที่พบว่ามีความล่อแหลมในการเกิดเหตุอาชญากรรมจำนวน 283 จุด และการติดตั้งกล้องวงจรปิดซีซีทีวีให้ครบ 5,000 จุด ตามนโยบายของกรุงเทพมหานคร รวมถึงการซ่อมแซมและปรับจูนมุมกล้องก่อนนำมาบูรณาการใช้ร่วมกัน ซึ่งทั้งหมดจะต้องเสร็จสิ้นภายใน 60 วัน
....ผสข.อภิสุข เวทย์วิศิษฐ์