กรมการขนส่งทางบก ลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะ บริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ นายชูศักดิ์ ตนะวีระกุล เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก นำเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ ถนนศรีนครินทร์ ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ได้รับการร้องเรียน จากประชาชนเรื่องรถตู้โดยสารสาธารณะ ที่จอดแช่บริเวณป้ายรถเมล์จนทำให้เกิดการกีดขวางการจราจร รวมถึงรถเมล์โดยสาร รถร่วมบริการ ที่ประชาชนร้องเรียน เรื่อง การที่ไม่ติดไฟหน้าและติดไฟท้ายของรถ รวมถึงบริเวณนี้ เป็นพื้นที่ชานเมืองที่รถแท็กซี่โดยสารที่หมดอายุมีการนำรถมาให้บริการประชาชน
ในวันนี้กรมการขนส่งทางบก ได้ตรวจทั้งรถเมล์ รถร่วมบริการ รถสองแถว รถแท็กซี่ และรถตู้โดยสาร ที่ไม่เพียงแต่ตรวจอุปกรณ์ส่วนควบความปลอดภัยของตัวรถ ยังเน้นเรื่องการตรวจเรื่องการนำรถที่หมดอายุการใช้งานมาให้บริการ เนื่องจาก มีผลด้านความปลอดภัยของประชาชนที่รับบริการ โดยเฉพาะในส่วนของรถตู้สาธารณะ ที่จะต้องไม่เกิน 10 ปี ซึ่งหากหมดอายุ ผู้ประกอบการที่เข้าหลักเกณฑ์ ปี 2562 ที่มีรถใหม่ หรืออายุการใช้งานไม่เกิน 2 ปี และระยะเวลาในการวิ่งไม่เกิน 10 ปี นับจากวันที่จดทะเบียนครั้งแรก สามารถนำรถตู้โดยสารคันเก่ามาวิ่งทดแทนได้ แต่หากเป็นรถตู้โดยสารที่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ เมื่อนำมาให้บริการครบกำหนด 10 ปี ผู้ประกอบการจะต้องยกเลิกการนำรถตู้ดังกล่าวมาให้บริการและปรับเปลี่ยนเป็นรถที่ให้บริการเป็นรถมินิบัสแทน เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลในเรื่องการเปลี่ยนรถตู้โดยสารเป็นรถมินิบัส จากการตรวจสอบในวันนี้ยังไม่พบรถตู้ที่กระทำผิดในลักษณะดังกล่าว
โดยขั้นตอนการตรวจสอบ เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาจากข้อมูลทะเบียนรถ ที่เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลของกรมการขนส่งทางบก ซึ่งมีความแม่นยำและอัพเดต สามารถตรวจเช็คได้ทั้งวันจดทะเบียนรถ วันสิ้นอายุภาษี วันเข้าตรวจรอบมิเตอร์และการนำรถเข้าตรวจครั้งล่าสุดเมื่อใด ซึ่งจะสามารถตรวจสอบข้อมูลได้อย่างละเอียด ซึ่งระบบดังกล่าวไม่เพียงแต่ใช้ตรวจรถแท็กซี่แต่ยังรวมไปถึงการตรวจรถโดยสารสาธารณะชนิดอื่นด้วย
สำหรับการลงพื้นที่ในวันนี้พบรถโดยสารสาธารณะที่กระทำผิดจำนวน 14 ราย เป็นรถเมล์ โดยสารร่วมบริการ 6 ราย ซึ่งกระทำความผิดเรื่อง ติดอุปกรณ์ส่วนควบไม่ถูกต้อง โดยการติดสติ๊กเกอร์โฆษณาโดยไม่ขออนุญาติ ไม่ติดไฟท้ายรถ ส่วนรถสองแถวสาธารณะ 4 รายกระทำความผิด แต่งกายไม่สุภาพ และรถจักรยานยนต์รับจ้าง 1 ราย กระทำความผิดไม่พกใบอนุญาตขับขี่ เจ้าหน้าที่ได้มีการออกใบสั่งและเปรียบเทียบปรับตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
ขณะที่รถแท็กซี่สาธารณะ พบกระทำความผิด 3 ราย โดยนำรถไม่จดทะเบียนมาให้บริการ และรถแท็กซี่ที่หมดอายุ 2 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการถอดป้ายทะเบียน และให้ผู้ขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว นำรถไปปรับเปลี่ยน เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลและไม่สามารถนำมาวิ่งให้บริการอีกต่อไป ขณะที่อีก 1 ราย เป็นการนำรถที่ไม่ต่อภาษีมาให้บริการ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเปรียบเทียบปรับให้ไปดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป