ตำรวจกรีซจัดการจราจรพลาดทำให้มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าจำนวนมาก

ความคืบหน้าการสอบสวนเหตุไฟป่ากรีซที่เมืองมาติ แหล่งท่องเที่ยวชายทะเล ซึ่งมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 91 ราย หลังเกิดเหตุมานานกว่า 1 สัปดาห์ คณะทำงานตรวจสอบพบการทำงานที่ผิดพลาดและบกพร่องของทางการท้องถิ่นหลายเรื่อง ที่เป็นประเด็นที่ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตั้งแต่การที่ไม่มีการเปิดสัญญาณเตือนภัยเมื่อเกิดเหตุ ทั้งประชาชนและนักท่องเที่ยวในหมู่บ้านไม่มีโอกาสที่จะหลบหนี นอกจากนี้ตำรวจท้องถิ่นยังชี้ทางผิดอย่างร้ายแรง คือแทนที่จะชี้ทางให้คนขับรถหลบหนีออกไปทางถนนสายหลักหรือทางหลวงกลับชี้ทางให้วิ่งเข้าไปหาไฟ

รัฐบาลกรีซระบุว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการวางเพลิง ทั้งกล่าวหาการปลูกสร้างอาคารบ้านเรือนโดยผิดกฏหมาย ไม่มีผังเมืองกลายเป็นการปิดขวางเส้นทางหลบหนี ศาตราจารย์ วาสซิลิส ดิกาลากิส จากมหาวิทยาลัยเทคนิคครีต เปิดเผยว่า เมื่อเกิดเหตุแทนที่ตำรวจจะจัดการจราจรให้รถยนต์มุ่งหน้าออกจากเมืองมาติกลับให้รถวิ่งไปทางทิศใต้และเหนือซึ่งเป็นพื้นที่มีไฟไหม้ ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุมีการเผยแพร่ภาพรถยนต์หลายคันที่ถูกไฟไหม้ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างผู้เสียชีวิตส่วนหนึ่งติดอยู่ภายในรถ หรือขณะที่พยายามจะหนี นักวิชาการอธิบายเมื่อมองในภาพรวมวงกว้างจะเห็นว่ารถยนต์เหล่านี้มีทิศทางที่สับสน หันหน้าไปทุกทิศทางในลักษณะการปิดล้อม ขัดขวางการจราจร

ไฟป่าครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีลุกลามไปทั่วมาราธอนอะเวนิว และไปถึงชายฝั่งในวันที่ 23 กรกฎาคม เนื่องจากกระแสลมแรงถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีรถยนต์ถูกไฟไหม้มากถึง 305 คัน

...

F163