ทันสถานการณ์โลก ประจำวันที่ 2 สิงหาคม 2561
+++กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยแพร่คลิปภาพแสนยานุภาพวินาทีเครื่องบินขับไล่ Su-34 ยิงขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง(supersonic missile) เข้าใส่เรือลำหนึ่ง ระหว่างการซ้อมรบทางน้ำในทะเลแคสเปียน และจรวดพุ่งทำลายเป้าหมายสิ้นซาก และจากนั้นก็เป็นภาพที่เครื่องบินกลับไปลงจอด ณ ฐานทัพอากาศแห่งหนึ่งในเวลาต่อมา รายงานข่าวระบุว่าในการซ้อมนั้น ยังรวมถึงกองกำลังจากกองเรือรบทะเลแคสเปียน โดยมีอากาศยานเข้าร่วมราวๆ 40 ลำ ซึ่งนอกเหนือจาก Su-34 แล้ว ยังมีเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-23 และเครื่องบินรบ Su-25 โดยมีการซ้อมทั้งจัดทัพรบและโจมตีเป้าหมายต่างๆ
+++สเตฟาน ดันการ์ดต์ โฆษกตำรวจสวีเดนแถลงในวันพุธว่า โจรทั้ง 2 คนกำลังถูกติดตามในต่างประเทศผ่านตำรวจสากล หลังขโมยมหามงกุฎทองคำ ไปจากมหารวิหารสแตรงนาส ซึ่งเป็นสมบัติของชาติ และน่าจะ “ประสบความยากลำบากมากในการที่จะขาย” พระมหามงกุฎทองคำทั้ง 2 องค์นี้เป็นของพระเจ้าคาร์ลที่ 9 และสมเด็จพระราชินีคริสตินา ที่ทรงปกครองสวีเดนในระหว่างปี 1604 – 1611
+++พระมหามงกุฎองค์สำหรับพระบรมศพพระเจ้าคาร์ลนั้นเป็นทองคำประดับด้วยคริสตัลและไข่มุก ขณะที่องค์สำหรับพระบรมศพพระราชินีคริสตินาซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ก็สร้างจากทองคำและประดับด้วยหินมีค่าและไข่มุก นอกจากนั้นคนร้ายยังคว้าเอาลูกกลมศักดิ์สิทธิ์ที่ตรงยอดประดับด้วยไม้กางเขนไป 1 ลูก ลูกกลมเช่นนี้เป็นสัญลักษณ์ทางประเพณีแห่งพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์
+++ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยเดิมที่ระดับร้อยละ 1.75-2.00 ตามที่ตลาดคาดหมายไว้ แต่ย้ำถึงความเข้มแข็งของเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน
+++ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 67.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน ลดลง 1.82 ดอลลาร์ ปิดที่ 72.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
+++ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดผสมผสาน แนสแดคได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของแอปเปิ้ล แต่ความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าเป็นปัจจัยฉุดดาวโจนส์ ลดลง 81.37 จุด (0.32 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 25,333.82 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 2.93 จุด (0.10 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,813.36 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 35.50 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,707.29 จุด
+++ด้านราคาทองคำโคแมกซ์ ราคาปิดตลาดลดลง 2.40 เหรียญสหรัฐ ต่อออนซ์ อยู่ที่ 1,215.80 เหรียญสหรัฐ
+++หลังมีข่าวรัฐบาลสหรัฐกำลังพิจารณาเก็บภาษีร้อยละ 25 กับสินค้าจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 6.63 ล้านล้านบาท) จากเดิมที่ประกาศจะเก็บร้อยละ 10 จากที่เคยประกาศเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ครอบคลุมสินค้าหลายประเภท เช่น ผลิตภัณฑ์อาหาร สารเคมี เหล็กและอะลูมิเนียม สินค้าอุปโภคบริโภคหลากหลายอย่างตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ ยางรถยนต์ จักรยาน ถุงมือเบสบอล ผลิตภัณฑ์ความงาม ไปจนถึงอาหารสุนัข แหล่งข่าวคาดว่า รัฐบาลสหรัฐจะประกาศเรื่องนี้ในวันพุธตามเวลาสหรัฐ โดยโฆษก รัฐบาลจีนประกาศจะออกมาตรการตอบโต้
+++ ที่ประชุมรัฐมนตรีช่วยจากญี่ปุ่นและประเทศอื่นๆที่เป็นหุ้นส่วนทางการค้ากับสหรัฐฯคือสหภาพยุโรป(อียู) แคนาดา เม็กซิโกและเกาหลีใต้ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมในนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ จะร่วมกันทำงานอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการแลกเปลี่ยนข้อมูลเรื่องข้อตกลงที่ทำขึ้นในที่ประชุมสุดยอดสหรัฐฯ-อียูเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อป้องกันให้ปัญหาเรื่องมาตรการรีดภาษีรถยนต์ที่รัฐบาลสหรัฐฯพิจารณาอยู่ในขณะนี้ยิ่งร้าวฉานหนักยิ่งขึ้น ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของญี่ปุ่นจะใช้ข้อมูลจากการประชุมครั้งนี้เพื่อเตรียมตัวหารือเรื่องการเจรจาทางการค้าครั้งใหม่กับสหรัฐฯ ทั้งสองฝ่ายนัดหารือครั้งแรกในวันพฤหัสบดีหน้า เพื่อจัดทำมาตรการทางการค้าที่เสรี เป็นธรรมและเกิดประโยชน์แก่ทั้งสองฝ่าย
+++เจ้าหน้าที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของซิมบับเว รายงานว่า ผลการนับคะแนนในการเลือกตั้งสส.ที่ดำเนินการเสร็จแล้ว 153 ที่นั่งจากทั้งหมด 210 ที่นั่ง ปรากฏว่า พรรคซานู-พีเอฟ พรรครัฐบาลซิมบับเว ชนะการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันจันทร์ ครองอันดับหนึ่ง คว้าที่นั่งสส. 110 ที่นั่ง ขณะที่คู่แข่งคือพรรคขบวนการเพื่อการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตย (เอ็มดีซี) ของนายเนลสัน ชามิซา ผู้นำพรรคฝ่ายค้านอยู่ในอันดับที่ 2 ได้ที่นั่งสส. 41 ที่นั่ง โดยขณะนี้ การนับคะแนนการเลือกตั้งสส.และการเลือกตั้งประธานาธิบดียังไม่เสร็จสิ้น นายชามิซา ทวีตข้อความกล่าวหาพรรครัฐบาลว่า ทุจริตการเลือกตั้งในหลายหน่วยเลือกตั้ง ระบุว่าพรรครัฐบาลบิดเบือนผลการเลือกตั้งให้ผิดไปจากเจตนารมณ์ ของประชาชนส่วนใหญ่ที่ลงคะแนนให้กับพรรค เอ็มดีซี และจะยื่นเรื่องคัดค้านต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งต่อไป
+++รองอธิบดีกรมการเพาะปลูก กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนามเปิดเผยว่า น้ำท่วมที่ไหลมาจากเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แขวงอัตตะปือใน สปป. ลาว แตกเมื่อวันจันทร์ที่แล้ว เป็นอุปสรรคต่อการเพาะปลูกข้าวในบางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดบริเวณสามเหลี่ยมลุ่มแม่น้ำโขง คาดว่าความเสียหายจะอยู่ในวงจำกัด เนื่องจากชาวนาได้เก็บเกี่ยวข้าวไปแล้วกว่าร้อยละ 40 ก่อนที่ฤดูเก็บเกี่ยวจะสิ้นสุดในอีก 15-20 วัน กระทรวงเกษตรและพัฒนาชนบทของเวียดนามเผยว่า ชาวนาปลูกข้าวในฤดูนี้ไปกว่า 10.56 ล้านไร่ คาดว่าจะได้ผลผลิตราว 9.51 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 จากปีก่อน
+++เกาหลีใต้เผชิญคลื่นความร้อน โดยเฉพาะกรุงโซลที่อุณหภูมิสูงสุดเจ้าหน้าที่ดับเพลิงช่วยกันพ่นละอองน้ำลดความร้อนระอุให้แก่บ้านเรือนประชาชน สำนักอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้แจ้งว่า อุณหภูมิในกรุงโซลวานนี้อยู่ที่ 39.6 องศาเซลเซียส สูงที่สุดนับตั้งแต่เริ่มเก็บสถิติในปี 2450 อากาศจะร้อนเช่นนี้ไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนที่อาคารแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของกรุงโซลวัดอุณหภูมิบนหลังคาอาคารได้ 41.8 องศาเซลเซียสนั้น สำนักอุตุนิยมวิทยาไม่ถือเป็นตัวเลขที่เป็นทางการ เพราะจุดที่ติดตั้งอุปกรณ์วัดอุณหภูมิแตกต่างจากจุดอื่น ๆ จึงไม่สามารถนำมาเทียบได้ ขณะที่เมืองฮงชอน ห่างจากกรุงโซลขึ้นไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ 100 กิโลเมตร อุณหภูมิอยู่ที่ 41 องศาเซลเซียส สูงที่สุดของประเทศ นับตั้งแต่เก็บสถิติมา