รองผู้ว่ากทม. ขอผู้ค้า ถ.ข้าวสารหยุดขาย4-5วัน เตรียมเสนอผู้ว่าฯกทม. หาทางออก

ช่วงเย็นวันนี้ นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้กลับมาลงพื้นที่บริเวณ ถ.ข้าวสาร อีกครั้ง พร้อมประชุมร่วมกับนางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าแผงลอยเสรีถนนข้าวสาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นเวลาราว 30 นาที ก่อนเปิดเผยว่า กทม.ได้ขอความร่วมมือกับผู้ค้าให้หยุดขายแล้ว แต่ยังพบการฝ่าฝืน เบื้องต้นจึงจะให้เจ้าหน้าที่เทศกิจเขตพระนครดำเนินการจับปรับทุกร้านที่ฝ่าฝืนขายของในวันนี้ก่อน ทั้งนี้ได้คุยกับตัวแทนชมรมฯและเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยกทม.เสนอว่าจะขอนำร้านค้าลงถนน แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าปฏิบัติตามไม่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้าได้เจรจากันเรียบร้อยแล้ว ทำให้ขณะนี้ยังไม่สามารถนำผู้ค้าลงมาค้าขายบนผิวถนนตามที่กทม.กำหนดได้ ต้องเลื่อนไปก่อนอย่างน้อย 4-5 วัน และถ้าครบกำหนดแล้วยังไม่ได้ข้อสรุปจะต้องนำเสนอ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครต่อไปว่าจะปรับเปลี่ยนเช่นไร

ส่วนนางสาวญาดา ได้เสนอจะปรับแต่งร้านค้าให้สวยงาม แต่ขอขายบนทางเท้าตามเดิม ซึ่งกทม.รับไม่ได้ สุดท้ายกทม.จึงตกลงกับผู้ค้าว่าเบื้องต้นขอให้หยุดขายชั่วคราวก่อน 4-5 วันนับแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ซึ่งตัวแทนชมรมผู้ค้าฯก็รับข้อเสนอ โดยกทม.จะส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจมาสังเกตการณ์ ถ้าพรุ่งนี้ยังพบการฝ่าฝืนขายอีก ก็จะดำเนินการตามกฎหมายปรับและรื้อร้านค้าทันที ไม่มีการเจรจาแล้ว  ทั้งนี้ไม่ยืนยันว่าผู้ค้าจะมีโอกาสกลับมาขายของได้อีกหรือไม่ แต่ กทม.จะพยายามช่วยให้ผู้ค้ากลับมาขายให้ได้เหมือนเดิม โดยกำลังเร่งดำเนินการอยู่ ซึ่งหากกทม.บังคับใช้กฎหมายจริงจัง ผู้ค้าทุกร้านก็จะขายไม่ได้เลยในรอบบริเวณนี้  ทั้งนี้คาดว่าภายในวันจันทร์หน้าที่ครบกำหนดห้ามขายแล้วจึงจะได้มาคุยกันอีกครั้งว่าจะดำเนินการเช่นไรต่อไป โดยอาจทำเป็นโครงการถนนคนเดินเป็นโซนพิเศษเหมือนบางแห่งของญี่ปุ่นที่มีการปิดถนนให้ขายของได้ ส่วนการให้ ถ.ข้าวสารลงมาขายบนถนนต่างจากย่านเยาวราชที่ให้ขายบนทางเท้านั้น เป็นเพราะมองบริบทของสถานที่ทั้งสองต่างกัน ส่วนการเสนอให้ ถ.ข้าวสารเป็นจุดพิเศษ เชื่อว่าจะไม่ส่งผลให้ที่อื่นทำตามได้ เพราะบริบทต่างกัน

รองผู้ว่าฯกทม. ย้ำว่า ถ้านำผู้ค้าลงมาตามที่กทม.จัดให้จะพอรับผู้ค้าทุกราย แต่พื้นที่ที่จัดให้ผู้ค้าจะมีสิทธิขายได้แค่คนละร้าน ยอมรับว่าที่ผ่านมากทม.ไม่เคยออกกฎเช่นนี้มาก่อน และย้ำว่าแม้ผู้ค้าจะไม่ยอม แต่กทม.จำเป็นต้องมาจัดระเบียบให้ถูกต้องซึ่งน่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด ทั้งนี้จะให้เขตพระนครทำป้ายประชาสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวทราบว่ากทม.กำลังจัดระเบียบผู้ค้า เพื่อป้องกันความสับสนด้วย