บรรยากาศล่าสุดที่ ถ.ข้าวสาร ตลอดช่วงบ่ายมีนักท่องเที่ยวที่ส่วนมากเป็นชาวต่างชาติเดินทางมาท่องเที่ยวและซื้อของกันตามปกติ ขณะที่ร้านค้าส่วนใหญ่เริ่มนำแผงเหล็กมาวางขายของกันตามปกติแล้ว โดยเฉพาะร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าปากซอย ถ.ข้าวสาร ช่วงที่ติดกับสถานีตำรวจนครบาลชนะสงคราม แม้จะมีคำสั่งจากกรุงเทพมหานคร(กทม.) ที่ห้ามขายของบนทางเท้าก็ตาม โดยมีเจ้าหน้าที่เทศกิจคอยสังเกตการณ์ แต่ไม่มีการเข้าไปรื้อของผู้ค้าแต่อย่างใด
จากการสอบถามผู้ค้ารายหนึ่ง ก็ระบุว่า จำเป็นต้องเปิดร้าน มิฉะนั้นก็จะทำให้ขาดรายได้ พร้อมมองว่ากทม.ไม่มีความจริงจังในการจัดระเบียบทั้งในเรื่องของแนวทางและมาตรการ ทำให้ผู้ค้าต้องเปิดแผงค้าขายของกันตามปกติ ด้านผู้ค้าอีกคนก็บอกว่า ตัวเองตั้งขายบนทางเท้ามากว่า 20 ปีแล้ว ยอมรับว่าต้องเสียค่าเช่าพื้นที่ทางเท้าบริเวณหน้าบ้านให้เจ้าของบ้านทุกเดือนเพื่อให้ขายของได้ ซึ่งค่าเช่าก็สูงในระดับหนึ่ง ทั้งนี้รับไม่ได้กับคำสั่งของกทม.ในการจัดระเบียบ เพราะมองว่าที่ขายอยู่ไม่ได้กีดขวางทางจราจร นักท่องเที่ยวยังเดินได้ปกติ และจะไม่ลงไปขายบนถนน แม้กทม.จะจัดพื้นที่ให้ขายก็ตาม เนื่องจากเวลาที่กทม.กำหนดให้ขายตั้งแต่ 18.00-24.00น. นั้นน้อยเกินไป เพราะปกติตัวเองขายตั้งแต่เวลา 10.00-20.00น. ทั้งนี้หากกทม.ให้ขายบนทางเท้าตัวเองยินดี เพราะยืนยันว่าไม่ได้ขวางทางเดินใคร พร้อมมองว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่กทม.จึงจ้องจะจัดการแต่พวกตัวเอง เหตุใดไม่จัดการรถเข็นบ้าง
ด้านเจ้าหน้าที่เทศกิจไม่ขอออกความเห็นถึงการดำเนินการกับกลุ่มผู้ค้าในขั้นตอนต่อไป เพราะต้องรอคำสั่งจากผู้บริหารกทม.ก่อน ทั้งนี้จากการเดินสำรวจเพิ่มเติมพบว่าผู้ค้ามีการนำร้านค้ามาตั้งวางขายกันเกือบเต็มพื้นที่แล้ว โดยบางพื้นที่มีการนำโต๊ะอาหารและเก้าอี้มาวางกีดขวางทางเท้าตลอดแนวจนไม่สามารถเดินบนทางเท้าได้ด้วย
มีรายงานว่าในช่วงบ่ายนาย สกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.) ได้เรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมด่วน ที่ศาลาว่าการกทม. คาดว่าเป็นการประชุมถึงการออกข้อบัญญัติจราจรที่จะต้องมีการอนุญาตให้กลุ่มผู้ค้าบริเวณ ถ.ข้าวสาร สามารถขายของบนผิวถนนได้ในช่วงเย็นวันนี้ รวมไปถึงการประชุมเกี่ยวกับแนวทางในการจัดระเบียบผู้ค้าด้วย