กรมทางหลวงปิดทางขึ้น-ลง ภูทับเบิกชั่วคราว/หัวหน้าปชป.เตรียมฟ้องนคร มาฉิม/กยศยึดทรัพย์เบี้ยวหนี้

สรุปข่าว 19.30 น.

+++หลังจากเหตุการณ์ฝนตกหนักทางภาคเหนือต่อเนื่องทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ล่าสุดมีรายงานของแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 โดยหมวดทางหลวงหล่มเก่าเมื่อเวลาประมาณ 05.20 น. เกิดเหตุน้ำกัดเซาะผิวทางทรุดตัว เนื่องจากมีฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ในทางหลวงหมายเลข 2331ตอน โจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า กม.10+050-.10+650 เป็นจุดใหญ่ 4 จุด

++++นายธานินทร์ สมบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง(ทล.)เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยแก่ผู้ใช้เส้นทาง โดยปิดเส้นทาง ขึ้นลงภูทับเบิกชั่วคราวเพื่อซ่อมแซมและให้ไปใช้เส้นทางผ่านอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อำเภอนครไทย จ.พิษณุโลก แทน เบื้องต้นได้สั่งการให้ทางแขวงที่อยู่ในเขตเฝ้าระวังภัยพิบัติ ดินถล่ม ถนนทรุด น้ำกัดเซาะ เตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว ตรวจสอบถนนที่เสี่ยงต่อการเกิดเหตุดินถล่ม ดินสไลด์ หากพบอยู่ในภาวะเสี่ยงต้องดำเนินการปิดเส้นทางทันทีเพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ทาง ทั้งนี้ได้ตั้งงบประมาณเร่งด่วนฉุกเฉิน จำนวน200ล้านบาท เพื่อใช้ซ่อมแซมทางชั่วคราว หลังหมดหน้าฝนจะต้องประเมินสถานการณ์และตั้งงบประมาณปี 62 ต่อไป

+++นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า พรรคได้มอบหมายให้ทีมกฎหมายฟ้องดำเนินคดีกับนายนคร มาฉิม อดีตสส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กรณีใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ว่าสมคบกับนายทุน ทหาร ล้มล้างรัฐบาลด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้อง กล่าวหาว่ามีการสมคบกับตุลาการเพื่อให้ฝ่ายโน้นแพ้คดี ซึ่งเป็นเรื่องเท็จทำให้พรรคเสียหาย ส่วนที่นายนคร ระบุว่ามีหลักฐานพร้อมไปเปิดในชั้นศาลนั้น ก็ขอให้เปิดเผยเลยโดยทีมกฎหมายของพรรคจะดูความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดทางคอมพิวเตอร์เพิ่มเติมจากการฟ้องหมิ่นประมาทด้วย เพราะเป็นการนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีโทษรุนแรงกว่าการทำผิดฐานหมิ่นประมาท

+++นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้กยศ.ได้เริ่มทยอยหักเงินบัญชีชำระหนี้ข้าราชการที่เป็นหนี้กับ กยศ.แล้ว คาดว่า ในเดือน ต.ค.61 จะเริ่มหักบัญชีข้าราชการที่เป็นลูกหนี้ของ กยศ. ในทุกหน่วยที่ได้รับเงินเดือนจ่ายตรงจากกรมบัญชีกลางผ่านระบบจีเอฟเอ็มไอเอส ตลอดจนปี 62 จะเริ่มใช้มาตรการนี้กับพนักงานเอกชนที่เป็นลูกหนี้ของ กยศ. โดยเริ่มกับบริษัทขนาดใหญ่ โดยตั้งเป้าหมายในปีหน้า เมื่อมีการหักบัญชีชำระหนี้ กยศ.ได้ 1 ล้านราย จะช่วยลดการแก้ไขปัญหาขาดการชำระหนี้ได้ โดยภาระการชำระหนี้ไม่มาก โดยเฉลี่ยลูกหนี้กยศ. อยู่รายละ 1 แสนบาท ให้เริ่มผ่อนชำระในปีแรก 1,500 บาท ปีที่ 2 จำนวน 2,500 บาท และปีที่ 3,000 กว่าบาท มาหักเงินบัญชีรายเดือนก็อยู่เดือนละ 100-300 บาท เท่านั้น

+++ปัจจุบัน กองทุนได้ปล่อยเงินกู้ยืมให้แก่นักเรียน นักศึกษาไปแล้วจำนวนกว่า 5.4 ล้านราย คิดเป็นเงินกว่า 5.7 แสนล้านบาท มีผู้กู้ยืมที่ชำระหนี้เสร็จสิ้นแล้ว 8 แสนราย อยู่ระหว่างปลอดหนี้ 2 ปี 1 ล้านราย อยู่ระหว่างชำระหนี้ 3.5 ล้านราย คิดเป็นเงินกว่า 4 แสนล้านบาทแบ่งเป็นผู้ชำระหนี้ปกติ 1.4 ล้านราย ผิดนัดชำระ 2.1 ล้านราย โดยมีผู้ที่ถูกดำเนินคดีแล้วมากกว่า 1 ล้านราย ซึ่งการหักเงินชำระหนี้ผ่านบัญชีจะช่วยแก้ปัญหาผิดนัดชำระไปได้มาก

+++นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ในช่วงปลายสัปดาห์ที่แล้วได้รับรายงานจากธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ว่า มีข้อมูลที่ไม่เกี่ยวกับธุรกรรมการเงินของลูกค้าบางส่วนหลุดไปยังภายนอก โดยกรณีของธนาคารกสิกรไทย เป็นข้อมูลลูกค้านิติบุคคลที่เป็นข้อมูลสาธารณะซึ่งหาได้ทั่วไป ส่วนของธนาคารกรุงไทย ส่วนใหญ่เป็นข้อมูลคำขอสินเชื่อของลูกค้ารายย่อยและนิติบุคคลบางส่วน หลังจากธนาคารทั้งสองแห่งตรวจพบปัญหาก็ได้เร่งตรวจสอบทันที ซึ่งพบว่ายังไม่มีลูกค้าที่ได้รับความเสียหาย และข้อมูลที่หลุดออกไปไม่ใช่ข้อมูลธุรกรรมทางการเงิน

++เหตุการณ์ข้างต้นถือเป็นภัยทางไซเบอร์ที่เกิดขึ้นกับองค์กรและสถาบันการเงินทั่วโลก ธปท. สั่งการให้สถาบันการเงินยกระดับการรับมือภัยไซเบอร์ เพิ่มมาตรการป้องกันภัยให้รัดกุมเท่าทันกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น และเฝ้าระวังอย่างเข้มข้นด้วย

+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,701.79 จุด ลดลง 0.08 จุด มูลค่าการซื้อขาย 57,014.68 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนมองว่า การที่ธนาคารญี่ปุ่น (BOJ) เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินในการประชุมวันนี้ เป็นการปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย และไม่มีความคืบหน้าอะไรมากนัก ดัชนีนิกเกอิปิดขยับขึ้น 8.88 จุด ที่ 22,553.72 จุด

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวลดลง 150.12 จุด ปิดที่ 28,583.01 จุด

+++ ศาลมีนบุรี สั่งปรับคนละ 5 พันบาท แก๊งโจ๋ลายพรางเล่นพิเรนทร์สร้างสถานการณ์ยิงแกล้งชาวบ้านบริเวณป้ายรถเมล์ ตระเวนไปตามถนนสุวินทวงศ์ แล้วจอดรถทำท่ายิงลักษณะทำร้าย โดยเปิดลำโพงเสียงกระสุนปืนดัง จนชาวบ้านตกใจกลัว เหตุเกิดบริเวณป้ายรถประจำทาง ทางเข้าวัดทิพพาวาส แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง และ แขวงลำผักชี เขตหนอกจอก โดย ตำรวจ สน.ลำผักชี และเจ้าหน้าที่ทหารร่วมกันจับกุมจำเลยส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

+++ความคืบหน้ากรณีเหตุคนร้ายก่อเหตุยิงชายหญิงเสียชีวิตบริเวณ ลานจอดรถตรงข้ามพระพุทธรูปแกะสลักเขาชีจรรย์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ล่าสุด ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้ขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ ต้องหาจำนวน 3 ราย ได้แก่ นายปัญญา, นายจิรศักดิ์ และนายสายันต์ ศรีสุข โดยกล่าวหาว่า "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันมีอาวุธปืนและกระสุน พกอาอาวุธปืนและเครื่องกระ สุนไปในเมือง หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต" โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัว นายปัญญา และนายจิรศักดิ์ ซึ่งคาดว่ายังหลบหนีอยู่ในประเทศ มีรายงานในช่วงเวลา 10.00 น.ของวันที่ 1 ส.ค. เจ้าหน้าที่จะนำตัว นายสายันต์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุในพื้นที่เมืองพัทยา และใกล้เคียง เพื่อนำมาใช้ในการประกอบสำนวนคดีต่อไป

+++แถลงการณ์จากคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรปว่ากลุ่มสหภาพยุโรป(อียู)มีมติให้อายัดทรัพย์สินในยุโรปของบริษัทรัสเซีย 6 แห่ง รวมถึงบริษัทพีเจเอสซี มอสโตเทรสต์และบริษัทซีเจเอสซี วีเอดี ฐานเกี่ยวข้องกับการรับเหมาก่อสร้างโครงการสะพานมูลค่า 3.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งประกอบถนนและทางรถไฟเชื่อมโยงระหว่างรัสเซียกับอ่าวไครเมียทางภาคใต้ของยูเครน หลังถูกรัสเซียผนวกเป็นอาณาเขตส่วนหนึ่ง โดยประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียได้ทำพิธีเปิดสะพานเมื่อเดือนพฤษภาคม แม้ว่าจะตำหนิจากกลุ่มอียูว่าการควบรวมอาณาเขตนั้นของรัสเซียเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของยูเครน เพื่อนบ้านและละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ