ที่ประชุม กกต. เลือก อิทธิพร บุญประคอง เป็น ปธ.กกต.คนใหม่

หลังการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นัดแรกของกกต.ชุดใหม่จำนวน 5 คน นานเกือบ 1 ชั่วโมงที่มีวาระเลือกประธานกกต.ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560

ที่ประชุมได้ลงมติเลือกนาย อิทธิพร บุญประคอง  อดีตอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ และอดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศเป็นประธานกกต.คนใหม่ โดยจากนี้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา จะนำผลการเลือกประธานกกต.ส่งไปให้นาย พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) รับทราบ เพื่อดำเนินการนำรายชื่อกกต.และประธานกกต.ขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานและกรรมการ กกต.ต่อไป โดยหลังจากลงมติกกต.ทั้ง 5 คนพร้อมด้วยพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.ได้หารือกันส่วนตัวต่อในห้องประชุม และเมื่อออกมาจากห้องประชุมกกต.ทั้ง 5 คนก็ไม่ได้ให้ความเห็นแต่อย่างใด โดยขอให้รอการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งก่อน

ก่อนหน้านี้  นาย มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ระบุถึงกรณีที่นาย เจษฎ์ โทณะวณิก ที่ปรึกษากรธ.ออกมาแสดงความเห็นว่าการเลือกประธานกกต. ส่อผิดกฎหมายเพราะยังหากกกต.ได้ไม่ครบ 7 คนว่า ได้คุยกับนาย เจษฎ์ แล้วปรากฎว่าเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน โดยนาย เจษฎ์ พูดว่า 5 คนก็เลือกได้ แต่ถ้ารอให้ครบ 7 คนได้ก็ดี ไม่ได้บอกว่ากกต. 5 คนไม่สามารถเลือกประธานกกต.ได้ โดยในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง พ.ศ.2560 ระบุไว้ชัดว่าหากได้กกต. 5 คนก็สามารถเลือกประธานกกต.ได้ทันที

ส่วนตัวมองว่าเมื่อถึงเวลาจำเป็นก็จะก็ต้องดำเนินการ ขณะนี้ไม่สามารถรอได้แล้ว เพราะการเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกที ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการตัดโอกาสของว่าที่กกต.ที่เหลืออีก 2 คนที่จะไม่ได้เป็นประธาน และกกต.ทั้ง 5 คนยังคงมีเกียรติ เพราะมาอย่างถูกต้องตามกระบวนการ ทั้งนี้หากไม่ดำเนินการเลือกประธานกกต. ก็จะไม่สามารถนำรายชื่อกกต.ขึ้นทูลเกล้าฯ ได้ ซึ่งส่งผลให้กกต.ชุดใหม่ยังไม่เกิดและอาจส่งผลต่อการจัดการเลือกตั้งได้ จึงจำเป็นต้องเดินหน้าต่อ แต่หากไม่มีใครรีบร้อนจะให้รอก็ได้ไว้อีก 2 ปีค่อยจัดเลือกตั้ง สำหรับประธานกกต.นั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้ หากได้เป็นประธานแล้วจะต้องอยู่ในตำแหน่งจนครบวาระ และหากลาออกจากประธานกกต.ก็ต้องพ้นจากการเป็นกกต.ด้วย