ไทยป้องกันการสวมสิทธิ์เหล็กส่งออก/จนท.ไทยเรียกสินบนบ.ญี่ปุ่น/ฆาตกรรมอำพรางหญิงตกเทรลเลอร์บางปะอิน

30 กรกฎาคม 2561, 07:50น.


กรณีที่สหรัฐฯ ขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียม นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศเปิดเผยว่า ทางกรมการค้าต่างประเทศหารือกรมศุลกากรขอให้ตรวจสอบสินค้าเหล็กที่นำเข้ามาในประเทศ และที่ส่งออกไปสหรัฐฯว่าเป็นเหล็กที่ผลิตในไทยจริงหรือไม่ และให้เน้นเฉพาะเหล็กที่เป็นรายการอ่อนไหว ที่สหรัฐฯขึ้นภาษีเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้มีปัญหาการสวมสิทธิ์เหล็กไทย เพราะสหรัฐฯอาจเพ่งเล็งไทยเพิ่มขึ้น และกระทบต่อการส่งออกเหล็ก โดยในสัปดาห์นี้ จะมีการหารือกับสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) และกรมศุลกากรของสหรัฐฯ เป็นการตรวจสอบข้อมูลร่วมกัน เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาการสวมสิทธิ์ ในเบื้องต้นพบว่ามีสินค้าที่เข้าข่ายต้องสงสัย ว่าจะมีการสวมสิทธิ์ เช่น ใบเลื่อย ไม้แขวนเสื้อ ตะปู



ส่วนการขอยกเว้นเป็นรายประเทศนั้น นางสาว ชุติมา บุณยประภัศร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์พร้อมคณะกำลังอยู่ระหว่างการเดินทางไปสหรัฐฯ และหารือกับสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (ยูเอสทีอาร์) กระทรวงพาณิชย์สหรัฐ



ส่วนกรณีที่คณะกรรมาธิการยุโรป เปิดการไต่สวนเพื่อพิจารณาใช้มาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น (เซฟการ์ด) รวม 28 กลุ่มสินค้า ประเทศไทยอยู่ในรายชื่อกลุ่มประเทศที่ได้รับการยกเว้นจากการใช้มาตรการชั่วคราวทุกรายการสินค้า เนื่องจากเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่มีปริมาณการนำเข้าไม่เกินร้อยละ 3 ของปริมาณการนำเข้าทั้งหมดของอียู



ยังมีกรณีที่สำนักงานสืบสวนพิเศษของอัยการกรุงโตเกียว เปิดเผยผลการสอบสวนกรณีบริษัทเอกชนญี่ปุ่นที่ว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานในท่าเรือทางใต้ของไทยเรียกร้องสินบน เพื่อเปิดทางให้เรือขนถ่ายอุปกรณ์โรงไฟฟ้าขนอม จ.นครศรีธรรมราช นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า กรมเจ้าท่าได้ตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ คู่ไปกับการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ซึ่งได้ข้อสรุปแล้วพบว่า การขออนุญาตสร้างท่าเรือชั่วคราวถูกต้องตามกระบวนการและระเบียบของกรมเจ้าท่า คือไม่กีดขวางการเดินเรือ ไม่ขัดต่อผังเมือง ไม่ทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนและไม่ขัดต่อสิ่งแวดล้อมส่วนประเด็นการอนุญาตให้เรือเข้าและออกจากท่าเรือ ไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กรมเจ้าท่ากำหนดไว้ ซึ่งอาจเป็นเพราะสินค้าที่บรรทุกมากับเรือมีมูลค่าค่อนข้างสูง จึงเป็นเหตุให้นำไปสู่การทุจริตได้ แต่ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดเพียงพอที่จะสรุปได้ว่าเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าเกี่ยวข้องกับการรับสินบน จึงจำเป็นต้องหาหลักฐานเพิ่ม เพื่อจะได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนทางวินัยขั้นร้ายแรงได้ ดังนั้นกรมเจ้าท่าจะทำหนังสือถึง ป.ป.ช.เพื่อขอหลักฐานเพิ่มเติม เพื่อนำมาประกอบการเอาผิดทางวินัยย้อนหลังได้ง่ายขึ้นกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง



ส่วนกรณีเรือฟีนิกซ์ล่มที่ จ.ภูเก็ต การสืบหาข้อเท็จจริงเพียงการตรวจสอบตัวเรือเท่านั้น ซึ่งยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเรือยังไม่ได้ถูกกู้ขึ้นมา ซึ่งสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคภูเก็ต ทำหนังสือแจ้งไปยังเจ้าของเรือให้กู้เรือขึ้นมาภายใน 31 กรกฎาคมนี้ หากยังไม่ดำเนินการ กรมเจ้าท่าจะหาวิธีให้เจ้าของเรือนำทรัพย์สินส่วนอื่นที่สามารถจ่ายได้ มาใช้กู้เรืออย่างเร่งด่วน เพราะเจ้าของเรือต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการกู้ราว 20 ล้านบาทเองทั้งหมด



อาชญากรรมวันนี้



นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม จะพาครอบครัวหญิงผู้เสียชีวิตอายุ 19 ปี เข้าแจ้งความที่กองบังคับการกองปราบปราม เพื่อขอให้ดำเนินคดีอาญากับ น.ส.สิรินาถ รอบรัมย์ (เป็ด) และนายสุรพล ดาราคำ (อ๊อฟ) และนายท็อป ยังไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง กรณีร่วมกันฆาตกรรมอำพราง ซึ่งก่อนหน้านี้ แพทย์ระบุถูกตีด้วยของแข็งไม่มีคมที่ท้ายทอย ทำให้ญาติติดใจการเสียชีวิต และแพทย์นัดรับผลในวันอังคารที่ 31 กรกฎาคมนี้



ด้าน พลตำรวจเอก ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ติดตามคดีหญิงอายุ 19 ปี ที่เสียชีวิตอย่างปริศนาตกจากรถเทลเลอร์ ในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ที่ สภ.บางปะอิน โดยในวันนี้ นายท็อปจะเดินทางมาให้ปากคำพนักงานสอบสวนที่ สภ.บางปะอิน



หลังจากนั้นจะไปอำนวยความสะดวกการจราจร ในช่วงวันหยุดยาว ที่ สถานีตำรวจทางหลวงหินกอง



ยังมีกรณีทหารและตำรวจในพื้นที่ สน.ลำผักชี-หนองจอก จับกุมชาย 6 คนอายุ 16-27 ปีที่ขับรถกระบะตระเวนถ่ายคลิปสร้างสถานการณ์ไล่ยิง เปิดเอฟเฟกต์ เสียงระเบิด-ปืนกล ทำให้ประชาชนตกใจ โดยในการสอบสวนที่ สน.ลำผักชี ทั้ง 6 คนอ้างว่าจำลองสถานการณ์เพื่อเรียกยอดวิว ของเพจเฟซบุ๊กเกรียน เดอะ แก๊ง และเพื่อมีรายได้จากโฆษณา ไม่เกี่ยวกับเรื่องความมั่นคง พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาทำผิดตาม ม.370 ผู้ใดส่งเสียงทำให้เกิดเสียงหรือกระทำอื้ออึงโดยไม่มีเหตุอันควร ทำให้ประชาชนตกใจหรือเดือดร้อน ปรับไม่เกิน 100 บาท และ ม.392 ผู้ใดกระทำการให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ ระวางโทษจำคุก 1 เดือนปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



กรุงเทพมหานคร



บ่ายวันนี้  ชมรมผู้ค้าแผงลอยเสรี ถ.ข้าวสาร แถลงข่าวความเดือดร้อนจากการจัดระเบียบของกรุงเทพมหานคร​ โดยจัดให้มีการประชุมผู้ค้าบริเวณ ถ.ข้าวสาร ทั้งใน และนอกอาคาร​ ถึงผลกระทบจากการจัดระเบียบผู้ค้าแผงลอย​ ณ​ ห้องประชุม โรงเรียนวัดชนะสงคราม​ ถ.จักรพงษ์​ (ตรงข้าม สน.ชนะสงคราม)​



....

ข่าวทั้งหมด

X