ตร.ปคม.มั่นใจพยานหลักฐานมัดตัวอดีตผู้ใหญ่บ้านจ.ตาก แจ้งข้อหาข่มขืนหญิงชาวม้ง

27 กรกฎาคม 2561, 16:37น.


หลังจากที่ตำรวจจับนายนพดล นวอริยะ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ในอ.พบพระ จ.ตาก ผู้ต้องหาในคดีข่มขืนกระทำชำเราหญิงสาวชาวม้ง ได้ ช่วงบ่ายวันนี้ ได้นำตัวเดินทางมาสอบปากคำที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) โดยมี พล.ต.ต.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บังคับการปราบปรามค้ามนุษย์ ร่วมสอบปากคำ





พล.ต.ต.กรไชย กล่าวว่า ผู้ต้องหายอมรับว่าได้มีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาวชาวม้งจริงแต่ไม่ได้ข่มขืน เป็นการสมยอมกันเองทั้งสองฝ่าย พร้อมให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาเพียงข้อหาเดียว คือ ข้อหาข่มขืนกระทำชำเรา ที่มีอัตราโทษ จำคุกสูงสุดไม่เกิน 20 ปี จากการตรวจสอบ พบว่า ผู้ต้องหาได้ทำลายหลักฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ในวันที่ก่อเหตุ รวมถึง พยานหลักฐานต่างๆ ทำให้เห็นว่า ผู้ต้องหาน่าจะมีความรู้ทางกฎหมาย และมีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี พร้อมทั้งเตรียมหาทางหนีไว้แล้ว ซึ่งแม้พยานหลักฐานในวันเกิดเหตุจะถูกทำลายทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่ยังมีคลิปวีดีโอและจดหมายที่ผู้ตายได้ฝากไว้ให้กับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ก่อนที่จะเสียชีวิต ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นพยานหลักฐานสำคัญในการเอาผิดได้ เพราะตามกฎหมายคำให้การของผู้ใกล้เสียชีวิตเชื่อได้ว่าจะเป็นความจริงทั้งหมด มั่นใจว่ามีน้ำหนักมากพอในการเอาผิดได้ ส่วนการจับกุม เจ้าหน้าที่ ได้ใช้ยุทธวิธีเข้ากดดันจนผู้ต้องหาถูกล้อมจับ จากนี้จะส่งตัวกลับไปยังพื้นที่เกิดเหตุที่จ.ลำปาง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยเฉพาะจะต้องหาพยานหลักฐานอื่นๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ ประกอบสำนวนคดีด้วย



ส่วนการจะเอาผิดตามพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ เพราะผู้ต้องหามีการนำภาพผู้เสียชีวิตไปเผยแพร่นั้น อาจไม่สามารถเอาผิดได้ เพราะภาพไม่เข้าข่ายอนาจารเช่นเดียวกับไม่สามารถแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายได้ เพราะไม่พบร่องรอยการทำร้าย ส่วนจะแจ้งข้อหาอื่นเพิ่มหรือไม่ ขอให้พนักงานสอบสวนพิจารณาเอง แต่ยืนยันว่าจะคัดค้านการประกันตัว เพราะคดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ เจ้าหน้าที่ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมว่า ผู้ต้องหาเคยมีประวัติทำผิดหรือเคยมีคดีลักษณะดังกล่าวมาก่อนหรือไม่ ขณะนี้ ยังไม่มีใครมาแจ้งความว่าเคยถูกผู้ต้องหาล่วงละเมิดทางเพศ



ด้านนายอัจฉริยะ ระบุว่า มีคลิปวีดีโอหลายคลิปที่ผู้เสียชีวิตได้ให้ข้อเท็จจริงไว้ พร้อมเปิดภาพนิ่งและคลิปวีดีโอคลิปหนึ่งที่มีความยาวประมาณ 8 นาที ให้สื่อมวลชนดู โดยเป็นคลิปที่ผู้เสียชีวิตให้การว่าถูกบังคับขู่เข็ญให้ไปโรงแรม และถูกข่มขืนจริง โดยถูกข่มขืนอย่างน้อย 5 ครั้งในคืนเดียว ซึ่งช่วงที่ถ่ายคลิปผู้เสียชีวิตทำได้แค่พยักหน้าและชี้นิ้ว ไม่สามารถพูดได้แล้ว และไม่ยินยอมให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งไม่กล้าคุยกับครอบครัว ยกเว้นน้องสาวของตัวเอง โดยก่อนหน้านี้ผู้เสียชีวิตได้เขียนจดหมายให้ไว้ แต่ไม่ขอระบุรายละเอียด ทั้งนี้ได้ส่งคลิปและจดหมายทั้งหมดให้ตำรวจ





นายอัจฉริยะ กล่าวว่า เหตุการณ์เกิดจากผู้ต้องหาแชทเฟชบุ๊คไปหาผู้เสียชีวิต โดยใช้เวลาคุยไม่ถึง 20 วันเพื่อหวังจีบ ก่อนอ้างว่ามียาแก้ปวดหลังที่ผู้เสียชีวิตต้องการ ผู้เสียชีวิตจึงสั่งซื้อ ผู้ต้องหาจึงเสนอมาส่งให้ที่จ.ลำปาง ที่ผู้เสียชีวิตอาศัยอยู่ ก่อนจะบังคับพาไปข่มขืนในคืนวันที่ 14 กรกฎาคม และปล่อยออกมา ต่อมาวันที่ 17 กรกฎาคม ผู้เสียชีวิตจึงกินยาฆ่าตัวตาย ญาติจึงมาแจ้งความ ยืนยันว่าผู้เสียชีวิตไม่ได้คุยเชิงชู้สาวกับผู้ต้องหา และผู้ต้องหาได้ใช้โทรศัพท์มือถือของผู้เสียชีวิตถ่ายภาพของทั้งสองคน ส่งไปให้บุคคลที่ผู้เสียชีวิตรู้จักผ่านเฟชบุ๊คของผู้เสียชีวิต เพื่ออ้างว่าผู้เสียชีวิตเป็นภรรยาอีกคนของตัวเอง



ส่วนผู้ต้องหาระบุสั้นๆด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า ไม่ได้ข่มขืนผู้เสียชีวิต เสียใจ และขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่รู้มาก่อนว่าผู้ตายจะคิดฆ่าตัวตาย



ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร



 

ข่าวทั้งหมด

X