ทอ.ลำเลียงถุงยังชีพพระราชทานช่วยลาว/โคราชจัดกิจกรรมเชิดชูฮีโร่ช่วยหมูป่า/รายได้มือถือโตร้อยละ0.7

27 กรกฎาคม 2561, 07:03น.


 



ความเคลื่อนไหวเมื่องไทยวันนี้ 07.30 น.



+++.แผนการปฏิบัติของกองทัพอากาศเตรียมบิน 2 เที่ยวบิน พร้อมกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน  30 คน ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติปากเซ สปป.ลาว เพื่อนำถุงยังชีพพระราชทานของพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา องค์ประธานกรรมการมูลนิธิอาสา เพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย  1,000 ชุด ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเขื่อนแตก



+++พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รับทราบความคืบหน้าการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใน สปป.ลาว โดยในส่วนของกระทรวงคมนาคมได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือเฉพาะกิจขึ้นที่สำนักงานทางหลวงที่ 9 (อุบลราชธานี) พร้อมทั้งระดมสรรพกำลังจากภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะห้างแม็คโคร จ.อุบลราชธานี จัดเจ้าหน้าที่และสิ่งของที่จำเป็นส่งผ่านทางกงสุลใหญ่ไทยประจำแขวงสุวรรณเขต ก่อนส่งมอบต่อให้ทางการ สปป.ลาว ได้แก่ ถุงยังชีพ 10,000 ชุด เรือท้องแบนพระราชทาน 4 ลำ เรือท้องแบน กรมเจ้าท่า 2 ลำ รถบรรทุก 6 ล้อและเรือขนของ รวม 30 คัน รถเทรลเลอร์ 1 คัน เจ้าหน้าที่ประจำรถและเรือ รวม 150 คน



+++สำหรับเรือท้องแบน 6 ลำ และเจ้าหน้าที่ประจำเรือของกรมเจ้าท่านั้น จะอยู่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมจนเสร็จสิ้นภารกิจ และหลังจากนั้นรัฐบาลโดยกระทรวงคมนาคมจะส่งทีมวิศวกรและเจ้าหน้าที่เข้าไปช่วยทางการ สปป.ลาว สำรวจความเสียหายของถนนและสะพาน เพื่อร่วมฟื้นฟูบูรณะโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่ได้รับความเสียหายต่อไป



+++ส่วนกระทรวงมหาดไทยได้รายงานว่า ได้สั่งการให้ทุกจังหวัดที่มีความพร้อมจัดตั้ง “ศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม สปป.ลาว” ที่ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบ โดยหากประสงค์จะบริจาคสิ่งของจะต้องเป็นสิ่งของที่ สปป.ลาวต้องการ เช่น เต็นท์ชั่วคราว ผ้าห่ม หมอน เครื่องนอน อุปกรณ์ทำอาหาร (หม้อ จาน ฯลฯ) น้ำดื่ม เสื้อผ้า ยารักษาโรค ห้องน้ำเคลื่อนที่ และเป็นของใหม่ที่ไม่มีสภาพเสี่ยงต่อการชำรุดหรือบูดเน่า รวมทั้งต้องคำนึงถึงการบรรจุหีบห่อให้มิดชิดและสะดวกต่อการขนส่งด้วย



+++ขณะเดียวกันให้แต่ละจังหวัดเชิญชวนประชาชนจิตอาสา “เราทำความดี ด้วยหัวใจ” ร่วมกิจกรรมรับบริจาคสิ่งของกับศูนย์แต่ละแห่ง เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยใน สปป.ลาว โดยเร็วที่สุดด้วย



+++ส่วนการบริจาคเงินช่วยเหลือนั้น สามารถไปบริจาคด้วยตนเองได้ที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล หรือบริจาคผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล ชื่อบัญชี “หัวใจไทยส่งไป สปป. ลาว” เลขที่บัญชี 067-0-12886-4



+++เมื่อเย็นวานนี้ ที่ลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายมุรธาธีร์ รักชาติ เจริญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , นางณัฏฐินีภรณ์ จันทรโณทัย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครราชสีมา ร่วมเป็นประธานเปิดกิจกรรมเชิดชูเกียรติผู้เข้าร่วมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้สูญหาย ณ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย กรณีนักฟุตบอลเยาวชน และโค้ช ทีมหมูป่า อะคาเดมี จำนวน 13 ชีวิต ติดอยู่ในถ้ำหลวงหลวงฯ จากจังหวัดนครราชสีมา ภายใต้ชื่องาน “ชาวโคราชภูมิใจ จิตอาสาทีมกู้ภัย 13 หมูป่า” 



+++มีฮีโร่จาก9 หน่วยงาน 62 คน นำโดย พ.ท.นพ.ภาคย์ โลหารชุน หรือ หมอภาคย์ ผู้บังคับกองพันเสนารักษ์ที่ 3 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ รับมอบพวงมาลัยจากพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมาและคณะ ก่อนออกเดินทางโดยนั่งรถราง จากสำนักงานองค์การบริหารส่วนจังหวัด ( อบจ.) นครราชสีมา มายังลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เข้ากราบสักการะอนุสาวรีย์ ย่าโม เพื่อความเป็นสิริมงคล ท่ามกลาง ผู้เข้าร่วมงานและประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับอย่างคึกคักและอบอุ่น



+++กระแสวิจารณ์ 2 คดี  ที่ทำให้บิดาของผู้เสียชีวิต กระโดดตึกฆ่าตัวตายที่อาคารศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก และกรณีครูวิภา บานเย็น ผู้อำนวยการโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ใน จ.กำแพงเพชร ที่ถูกลูกศิษย์เบี้ยวหนี้ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา(กยศ.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ยุติธรรม จะมีการประชุมหารือ ของคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ(กพยช.) คาดว่า จะประชุมในวันที่ 31 ก.ค. หรือวันที่ 1 ส.ค. เพื่อจะติดตามประเด็น ทั้งเรื่องของพ่อผู้ตายที่กระโดดตึก และการถูกบังคับคดียึดทรัพย์ของครูวิภา บานเย็น หลังถูกลูกศิษย์เบี้ยวหนี้ กยศ. ซึ่งการประชุมครั้งนี้ไม่ใช่การหาทางออก แต่เป็นการประชุมเพื่อช่วยกันดูว่า กระบวนการยุติธรรมจากกรณีทั้ง 2 ที่เกิดขึ้นนี้ มีประเด็นอะไรเป็นบทเรียน ที่เราจะต้องนำมาสู่การพัฒนากระบวนการยุติธรรม



+++นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) รายงานสภาพตลาด โทรคมนาคม ประจำไตรมาส 1 ปี 2561 ของสำนักงาน กสทช.ว่า รายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่รวม ในไตรมาส 1 ปี 2561 อยู่ที่ 69,200 ล้านบาท เพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 0.7 จากไตรมาส 4 ของปี 2560 สำหรับจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ ณ ไตรมาส 1 ปี 2561 พบว่า บมจ. แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ เอไอเอส มีฐานลูกค้า มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่งคือ 40.1 ล้านเลขหมาย, ทรูมูฟ เอช มีฐานลูกค้า 27.63 ล้านเลขหมาย ส่วนอันดับสาม คือ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น หรือดีแทค มีฐานลูกค้า 21.8 ล้านเลขหมาย



+++กระทรวงสาธารณสุข กำหนดวันห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 โดยในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ห้ามขายวันที่ 27-28 ก.ค.นี้ ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 6 เดือน ปรับ 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ข่าวทั้งหมด

X