หลังมีคนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สิน ภายในบ้านพักของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ อดีตผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ที่หมู่บ้านสัมมากร เขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา เมื่อวานเจ้าหน้าที่ตำรวจ จับกุม นายทองสุข แก้วหาวงษ์ อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาที่ขึ้นไปขโมยทรัพย์สินภายในบ้านพักของแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ โดยแจ้งข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี”
พลตำรวจโท ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้เมื่อวานนี้ ที่บ้านพักแห่งหนึ่ง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมกับของกลางเป็นทรัพย์สิน อาทิ นาฬิกาข้อมือ สร้อยคอ แหวน พระเครื่อง กระเป๋าแบรนด์เนม ฯลฯ รวม 154 รายการ จากการตรวจสอบ พบว่านายทองสุขมีหมายจับติดตัวอยู่ 12 หมาย เป็นหมายจับเกี่ยวกับข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานเกือบทั้งหมด ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด
ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัว นางสาวพัทธนันท์ อธิชัยจารุพงษ์ อายุ 41 ปี ภรรยาของนายทองสุขได้เมื่อวานนี้เช่นกัน โดยสามารถจับกุมตัวได้ที่หน้าอาคารชารีออท อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ในข้อหา “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหะสถาน โดยร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี หรือรับของโจร”
นอกจากนี้ยังมีผู้ต้องหาอีก 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายเอนก แก้วสอาด อายุ 73 ปี เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ได้ที่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัล สาขาทิวลิป สแควร์ อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร พร้อมของกลางเป็นรถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง และแหวนนพเก้า จำนวน 3 วง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาเดียวกับนายทองสุข ซึ่งนายเอนกมีหมายจับค้างเก่าอยู่ในพื้นที่ สน.บางนา เป็นหมายจับในความผิดฐานฉ้อโกง
จากการสอบสวนนายทองสุข รับสารภาพว่า ตระเวนตามหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร โดยเลือกหมู่บ้านเก่าที่ไม่มีคนอยู่อาศัย และเชื่อว่าจะมีทรัพย์สินจำนวนมากเก็บไว้ จึงชักชวนบุคคลที่สนิท ให้ขับขี่ยานพาหนะไปจอดส่งในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ และเมื่อก่อเหตุสำเร็จจะนำทรัพย์สินไปแบ่งกัน โดยทรัพย์สินของนายทองสุข จะนำไปขายตามร้านต่างๆ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายและทรัพย์สินบางส่วน นำไปมอบให้กับนางสาวพัทธนันท์ ภรรยา และยังเคยก่อเหตุในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัดหลายครั้ง โดยก่อเหตุในหมู่บ้านสัมมากร 5 ครั้ง แต่ได้ทรัพย์สินเพียง 2 ครั้ง ซึ่งนายทองสุขไม่มีอาชีพ จะลักขโมยเพียงอย่างเดียว โดยก่อนก่อเหตุจะว่าจ้างให้คนมาเดินดูลาดเลา ก่อนที่ตัวเองจะเป็นผู้เข้าลักทรัพย์ โดยเฉพาะหมู่บ้านสัมมากร ไม่มีระบบป้องกันความปลอดภัยที่ดี พร้อมกันนี้ยังฝากประชาสัมพันธ์ผู้ที่เคยถูกโจรขึ้นบ้าน ให้มาดูของกลางได้ที่ สน.บางชัน ด้วย หลังจากนี้จะต้องสืบทรัพย์สินที่ขโมยมาต่อไป
ขณะที่นายทองสุขและนางสาวพัทธนันท์ รับสารภาพอีกด้วยว่า ทั้งสองได้หลบหนีการประกันตัวในชั้นศาล ในคดีเกี่ยวกับลักทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการประสานขอข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ด้านแพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ยอมรับว่า เป็นความผิดของตัวเองที่ไม่ได้ติดกล่องวงจรปิด เพราะมั่นใจในระบบรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้าน ทำให้สืบหาตัวคนร้ายได้ยากมาก โดยของกลางที่ตำรวจนำมาวันนี้ ไม่มีทรัพย์ของตัวเอง