คาดทักษิณ จัดงานวันเกิด 26 ก.ค.ที่ลอนดอน/น้ำมัน-หุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก/2 ผตห.ยอมรับก่อเหตุทำร้ายคู่อริบนรถเมล์

+++ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิจารณาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร กับพวก รวม 47 คน  เป็นจำเลยในความผิดคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษแบบเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว  ของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือ หวยบนดิน ป.ป.ช.ในฐานะโจทก์ เดินทางมาศาล ส่วนฝ่ายจำเลยไม่มีผู้ใดมาศาล องค์คณะผู้พิพากษาพิจารณาแล้วเห็นว่า นายทักษิณ จำเลยที่ 1 ทราบนัดโดยชอบแล้ว   แต่ไม่เดินทางมาศาล โดยไม่แจ้งเหตุขัดข้อง  พฤติการณ์มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า จำเลยหลบหนี จึงให้ออกหมายจับ   กรณีหากไม่สามารถจับกุมได้ ภายใน 3 เดือน ศาลมีอำนาจดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีโดยไม่ต้องทำต่อหน้าจำเลยได้   แต่ไม่ตัดสิทธิจำเลยในการต่อสู้คดี และนัดตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2561 เวลา 14.00 น. โดยให้โจทก์ยื่นบัญชีพยานหลักฐานก่อนวันนัดไต่สวน ไม่น้อยกว่า 14 วัน   และให้ส่งหมายแจ้งให้จำเลยทราบ หากไม่มีผู้รับให้ปิดหมายต่อไป

+++รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับงานวันเกิดครบรอบ 69 ปี ของนายทักษิณในปีนี้ จะจัดงานวันเกิดที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ปีนี้น่าจะมีอดีต ส.ส. นักการเมือง และคนใกล้ชิด เดินทางมาร่วมอวยพรวันเกิดราว 20-30 คน นอกนั้นจะเป็นญาติ และเพื่อนของนายทักษิณ อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ยังไม่ได้มีการแจ้งสถานที่จัดเลี้ยงซึ่งจะจัดในวันที่ 26 กรกฎาคม

+++ศาลรัฐธรรมนูญ พิจารณาคำร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)  ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5)  ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ กรณีที่ตรวจพบว่าภรรยาของนายดอนได้ถือหุ้นเกินกว่าร้อยละ 5 ที่กฎหมายกำหนด และไม่แจ้งให้ ป.ป.ช.ทราบในกำหนดเวลา

+++ที่ประชุมคณะตุลาการได้ปรึกษาแล้วเห็นว่านายดอน ยังไม่ได้ยื่นคำชี้แจ้งแก้ข้อกล่าวหา จึงเห็นว่าข้อมูลที่มียังไม่รอบคอบเพียงพอให้คณะตุลาการพิจารณาวินิจฉัย จึงจะมีหนังสือไปให้นายดอน ได้ชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา  แต่ยังไม่ได้กำหนดระยะเวลา ว่าจะภายในเมื่อใด ซึ่งยังอยู่ในกระบวนการที่ศาลจะนัดอีกครั้ง 

+++ความเคลื่อนไหวสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 78 เซ็นต์ ปิดที่ 69.30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 49 เซ็นต์ ปิดที่ 73.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

+++ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ บรรลุข้อตกลงทางการค้ากับยุโรป ระหว่างที่พบปะกับ ฌอง-โคล้ด จุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป(อียู) ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 172.16 จุด ปิดที่ 25,414.10 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 25.67 จุด ปิดที่ 2,846.07 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 91.47 จุด ปิดที่ 7,932.24 จุด

+++ราคาทองคำ ปรับขึ้นพอสมควร หลังดอลลาร์อ่อนค่าลง ทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 6.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,231.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์

+++คดีอาชญากรรม พลตํารวจตรีสมพงษ์  ชิงดวง รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล  เปิดเผยถึงทิศทางการทำงานคดีนายธนิต ทัฬหสุนทร บุตรชายของนายศุภชัย ทัฬหสุนทร ถูกแทงเสียชีวิตว่า อยู่ระหว่างการขอคัดสำนวนคำพิพากษาจากศาลมาประกอบการพิจารณา ซึ่งถ้าไม่มีพยานหลักฐานใหม่ ก็อาจรื้อฟื้นคดีได้ค่อนข้างยาก และคดีนี้เพิ่งผ่านการพิจารณาในศาลชั้นต้น  แต่ยังมีการพิจารณาในชั้นอุทธรณ์และฎีกาอีก 2 ชั้น ซึ่งเรื่องดังกล่าวไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ ส่วนที่มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมว่า ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว อาจได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากรู้จักกับผู้มีอิทธิพล  ก็อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ในส่วนตัว ไม่ได้รู้สึกกดดันกับการรื้อฟื้นคดีเพราะการทำคดีความยากง่ายอยู่ที่การหาพยานหลักฐาน หากพยานหลักฐานไม่ถึง หรือไม่มี ก็ไม่สามารถปั้นได้ จึงต้องทำงานแบบมืออาชีพตรงไปตรงมาตามอำนาจที่กฎหมายมอบให้เต็มที่ แต่หากมีพยานหลักฐานแล้วไม่ทำ ตำรวจชุดดังกล่าวอาจโดนข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ แต่ในคดีนี้ยังไม่ทราบในรายละเอียด ต้องให้ความเป็นธรรมกับชุดพนักงานสอบสวนในคดีดังกล่าวด้วย 

+++ขณะที่ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เตรียมเรียกประชุมพนักงานสอบสวนชุดเดิม ให้คณะทำงานรายงานผลภายใน15วัน

+++กรณีมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอกลุ่มวัยรุ่น รุมทำร้ายร่างกาย คู่กรณี บนรถประจำทางสาย 134 ด้วยอาวุธมีดและอาวุธปืน เหตุเกิดวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 เวลา 19.00 น. จนเป็นเหตุให้นายอนุชา เอี่ยมละเอียด อายุ 26 ปี อดีตนักเรียนช่างกลได้รับบาดเจ็บ ล่าสุดที่สถานีตำรวจภูธรรัตนาธิเบศร์ จังหวัดนนทบุรี ผู้ปกครองของนักศึกษาที่ตกเป็นผู้ต้องหา พร้อมทนายความ นำตัวนายอาร์ท อายุ 20 ปี และนายเก็ต อายุ 19 ปี เดินเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ เที่ยงกมล ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ตามที่ปรากฏคลิปวิดีโอ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ออกสืบสวนติดตามคนร้ายที่ก่อเหตุ ทราบว่า กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุศึกษาอยู่ที่สถาบันแห่งหนึ่ง จึงได้ประสานงานกับสถาบันและผู้ปกครอง ให้นำตัวทั้ง 2 คนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จากการสอบสวนทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุจริง และยอมรับว่าใช้อาวุธปืนปลอมข่มขู่ผู้ได้รับบาดเจ็บ ตามที่ปรากฏในคลิป พนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์  สอบปากคำเพิ่มเติมพร้อมทำประวัติ พิมพ์ลายนิ้วมือ โดยเบื้องต้น แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

แฟ้มภาพ