หลายฝ่ายช่วยเหลือลาว /รมว.กห.ป่วยเล็งหารือโยกย้าย27ก.ค.นี้/ไต้หวันตำหนิจีนแทรกแซง

25 กรกฎาคม 2561, 19:21น.


สรุปข่าว 19.30 น.



+++เฟซบุ๊ก สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราชได้โพสต์ข้อความระบุว่าตามที่เกิดเหตุเขื่อนเซเปียน-เซน้ำน้อย แตก เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561ก่อให้เกิดอุทกภัยในแขวงอัตตะปือ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาโปรดให้คณะสงฆ์หนตะวันออกทุกจังหวัด รวบรวมกัปปิยภัณฑ์พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภค และมอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาทุกจังหวัด ดำเนินงานประสานกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดส่งไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งนี้ และโปรดให้คณะสงฆ์ทั่วประเทศร่วมกันแผ่เมตตาจิต เพื่อให้ประชาชนชาวลาวผู้ประสบภัย ผ่านพ้นภัยพิบัติดังกล่าวไปได้โดยสวัสดิภาพ มีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกร นำส่งกัปปิยภัณฑ์ เท่าราคา 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) เพื่อสงเคราะห์ผู้ประสบภัยพิบัติในครั้งนี้



+++พล.อ.ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้มอบนโยบายให้หน่วยบัญชาการทหารพัฒนาเตรียมความพร้อมในด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการบรรเทาภัยพิบัติแก่ สปป.ลาว ให้ทันต่อสถานการณ์ โดยมีสำนักงานภาค 5 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นหน่วยสนับสนุนหลัก และสำนักงานภาค 2 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา เป็นหน่วยสนับสนุนรองที่พร้อมให้การสนับสนุน และจะเคลื่อนย้ายเมื่อได้รับสั่งการภายใน 3 ชม. อีกทั้งได้เตรียมยานพาหนะสนับสนุนการลำเลียงถุงยังชีพพระราชทาน และสิ่งของจำเป็นอื่นๆ ที่ได้รับการบริจาคจากทุกภาคส่วนให้เข้าถึงพื้นที่เมื่อได้รับการร้องขอ



+++ด้านบีบีซีรายงานอ้างเฟซบุคของเอบีซี ลาวส์ นิวส์ของลาวว่ามีคนเสียชีวิตแล้ว 20 ศพและมีผู้สูญหายราว 100 คน ประชาชนหลายพันคนไร้อยู่อาศัย ขณะเดียวกันหน่วยกู้ภัยของลาวเร่งค้นหาและช่วยเหลือชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม หน่วยงานท้องถิ่นใช้เฮลิคอปเตอร์และเรือเพื่อช่วยลำเลียงชาวบ้านที่ติดค้างอยู่ในหมู่บ้านที่ถูกน้ำท่วมเพื่อไปยังที่ปลอดภัย ขอให้รัฐบาลกลางและชุมชนอื่นๆของลาวร่วมจัดหาหรือบริจาคสิ่งของบรรเทาทุกข์เร่งด่วนให้กับประชาชนในพื้นที่ประสบภัย โดยเฉพาะเสื้อผ้า อาหาร น้ำดื่มและยารักษาโรค



+++กรณี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม ได้นัดผู้บัญชาการเหล่าทัพหารือนอกรอบก่อนที่จะมีการประชุมสภากลาโหม ที่กระทรวงกลาโหมในวันนี้ (25 ก.ค.) ถึงการจัดทำบัญชีโยกย้ายนายทหารชั้นนายพลประจำปีอย่างไม่เป็นทางการ แต่พล.อ.ประวิตรได้ลาป่วย เพื่อพักฟื้นรักษาตัวที่บ้านพัก และไม่ได้เดินทางมาที่กระทรวงกลาโหม จึงทำให้ในวันนี้ยังไม่มีการหารือนอกรอบ เบื้องต้นยังไม่ได้มีการสรุปว่าพล.อ.ประวิตรจะนัดผู้บัญชาการเหล่าทัพมาหารือนอกรอบกันในวันใด แต่ปกติทุกเช้าวันศุกร์ทางผู้บัญชาการเหล่าทัพจะเข้าพบพล.อ.ประวิตร เพื่อร่วมรับประทานอาหารเช้าที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ (ร.1 รอ.) จึงคาดว่าจะใช้โอกาสดังกล่าวคือวันที่ 27 ก.ค. หารือนอกรอบกันก่อนที่จะมีการประชุมคณะกรรมการปรับย้ายนายทหารชั้นนายพลอย่างเป็นทางการ



+++ปัญหาขยะพิษ นายสุเมธา วิเชียรเพชร ผอ.สำนักจัดการกากของเสียและสารอันตราย กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ในวันที่ 1 ส.ค.นี้ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรฯ จะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อบูรณาการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำงานของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้เบื้องต้นประเด็นในการหารือจะเป็นการพิจารณาว่าจะมีการห้ามนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ประเภทใดบ้าง รวมทั้งขยะพลาสติกด้วยเพราะในช่วงนี้เป็นการห้ามนำเข้าชั่วคราวเท่านั้น เมื่อที่ประชุมได้ข้อสรุปแล้วจะต้องนำไปออกเป็นกฎหมายบังคับใช้ และหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการอนุญาตคือกระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงพาณิชย์ ที่จะต้องดำเนินการประกาศเป็นกฎกระทรวง หรือกฎหมายเพื่อบังคับใช้ต่อไป



+++พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ได้คุมตัวน.ส.กาญจนา สินประเสริฐ อายุ 27 ปี สาวทอมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ไปทำการยื่นคำร้องฝากขังผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ค. – 5 ส.ค. เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องรอสอบสวนพยานเพิ่มเติม กับรอผลตรวจสอบประวัติต้องโทษและลายพิมพ์นิ้วมือผู้ต้องหา ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกัน เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี แต่ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้ ขณะที่ นางผา มารดา น.ส.กาญจนา ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลพิจารณาคำร้องและหลักทรัพย์แล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ น.ส.กาญจา ประกันตัวไปโดยตีราคาประกัน 1.2 แสนบาท ไม่กำหนดเงื่อนไขใดๆ แต่ให้มารายงานตัวต่อศาลในวันที่ 11 ก.ย.นี้ เวลา 08.30 น.



+++ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  ปิดตลาด เพิ่มขึ้น15.86 ดัชนีอยู่ที่ 1,690 จุดมูลค่าการซื้อขาย 57,540.27 ล้านบาท



+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นในวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งของตลาดหุ้นสหรัฐเมื่อคืนนี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ และสหภาพยุโรป (EU) ในวันนี้ ท่ามกลางความตึงเคียดด้านการค้าที่เป็นผลมาจากการใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ปิดตลาดเพิ่มขึ้น 103.77 จุด ที่ 22,614.25 จุด



+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดวันนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 258.33 จุด ที่ 28,920.90 จุด



+++สายการบินอเมริกัน แอร์ไลน์ส ได้ออกมายืนยันว่า ทางบริษัทได้เปลี่ยนรูปแบบการแสดงผลบนเว็บไซต์ จากที่ก่อนหน้านี้ระบุคำว่า "ไต้หวัน" เหลือเพียงแค่รหัสสนามบินและชื่อเมืองไทเป หลังที่ก่อนหน้านี้ ทางสายการบินได้ใช้คำที่สื่อว่าไต้หวันเป็นประเทศ ซึ่งเป็นประเด็นที่อ่อนไหวและสร้างความไม่พอใจให้กับจีนเป็นอย่างมาก ทางการจีนได้ขอความร่วมมือจากสายการบินต่างประเทศให้เปลี่ยนแปลสถานะของไต้หวันให้ถูกต้อง โดยมีกำหนดเส้นตายในวันนี้ ด้าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศไต้หวันออกโรงประณามรัฐบาลจีนที่บังคับให้สายการบินต่างชาติเปลี่ยนวิธีเรียกไต้หวันบนหน้าเว็บไซต์ว่าเป็นการใช้อำนาจแทรกแซงการดำเนินธุรกิจของเอกชนและการดำเนินธุรกิจระดับประเทศอย่างรุนแรง

ข่าวทั้งหมด

X