กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ นำเสนอรายงานประจำปี (External Sector Report) ซึ่งแนะนำให้จีนและสหรัฐฯมีการเจรจาเพื่อแก้ไขข้อพิพาททางการค้าเพื่อสนับสนุนระบบการค้าระหว่างประเทศและเศรษฐกิจโลก ที่มีความตึงเครียดเกิดขึ้นทั่วโลก หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศมาตรการภาษีศุลกากรฉบับใหม่ต่อจีน เยอรมนี และแคนาดา ที่เป็นผู้ค้ารายใหญ่ แม้สหรัฐฯจะอ้างถึงเป้าหมายเพื่อสร้างความเป็นธรรมทางการค้า แต่กลับส่งผลต่อความมั่นคง และเตือนด้วยว่ายังไม่พบสัญญาณว่าความไม่สมดุลทางการค้าโลกจะลดลง ในทางตรงข้ามสถานการณ์มีแนวโน้มจะเพิ่มความตึงเครียดมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง
โดยในรายงานที่มีการประเมินดุลการค้าและอัตราเเลกเปลี่ยนของประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ นักวิเคราะห์พยากรณ์ว่า จีนจะมีรายรับจากบัญชีเดินสะพัดขยายตัวมาอยู่ที่ระดับร้อยละ 1.7 ของขนาดเศรษฐกิจ ซึ่งไอเอ็มเอฟเห็นว่าเป็นการได้เปรียบดุลบัญชีเดินสะพัดที่มากเกินไป เช่นเดียวกับ เยอรมนี เกาหลีใต้ เนเธอร์แลนด์ สวีเดนและสิงคโปร์ ส่วนกลุ่มที่ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมากเกินไป ได้เเก่ สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร อาร์เจนตินา และตุรกี ซึ่งความไม่สมดุลทางการค้า ที่ยาวนานและมีมูลค่ามากในประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่จะมีผลต่อความมั่นคงของเศรษฐกิจโลก
...
F163