ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างนายแม็ค ธอร์นเบอร์รี สส.พรรครีพับลิกันจากรัฐเท็กซัส ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการด้านกิจการทหารของสภาผู้แทนราษฏรสหรัฐฯว่า ร่างกฎหมายกลาโหมสหรัฐฯฉบับปี 2562 มีสาระสำคัญๆคือห้ามกองทัพสหรัฐฯร่วมมือในระดับกองทัพกับกองทัพกับรัสเซียและประเทศจีน แม้ว่าข้อห้ามดังกล่าวจะมีอยู่ในกฎหมายกลาโหมฉบับปีก่อนๆเช่นกัน แต่ก็มีการเพิ่มเติมข้อจำกัดอีกหลายเรื่อง หลังรัฐบาลรัสเซียมีแนวโน้มจะหันมาเพิ่มความร่วมมือกับสหรัฐฯมากขึ้นหลังการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียในกรุงเฮลซิงกิ ฟินแลนด์ เมื่อสัปดาห์ก่อน
กฎหมายใหม่นี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการประนีประนอมกันระหว่างฉบับของสส.กับสว.เห็นชอบเรื่องสนับสนุนทางการเงินให้กับรัฐบาลสหรัฐฯในเรื่องการผลิตหัวรบธรรมดาสำหรับติดขีปนาวุธที่มุ่งจะช่วยพันธมิตรสหรัฐฯสกัดการรุกรานของรัสเซีย และสนับสนุนข้อเสนอของนายทรัมป์ที่ขออนุมัติงบประมาณ 250 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯสำหรับการช่วยเหลือยูเครนเพื่อป้องกันการโจมตีด้วยอาวุธร้ายแรงจากรัสเซียและ 6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯเพื่อใช้ในโครงการป้องกันทางกลาโหมให้กับพันธมิตรในยุโรป เพื่อสร้างความมั่นใจให้พันธมิตรของสหรัฐฯ โดยเฉพาะการรุกรานจากรัสเซีย
สำหรับกรณีของจีน กฎหมายใหม่นี้กำหนดให้รัฐบาลจัดทำยุทธศาสตร์เพื่อสกัดการขยายอิทธิพลทางทหารของกองทัพจีนในด้านต่างๆ พร้อมทั้งเพิ่มความร่วมมือทางทหารกับพันธมิตรสหรัฐฯในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงไต้หวัน ทั้งห้ามรัฐบาลสหรัฐฯใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่เสี่ยงถูกล้วงข้อมูลลับ เช่น เทคโนลียีด้านการสื่อสารที่ผลิตโดยบริษัทหัวเหว่ยและซีทีอี ที่สัมพันธ์ใกล้ชิดกับหน่วยข่าวกรองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน พรรครัฐบาลจีน พร้อมทั้งห้ามธุรกิจเอกชนที่ชนะงานประมูลติดตั้งระบบไอทีของสองบริษัทนั้นในหน่วยงานราชการของสหรัฐฯ