รองโฆษกอัยการสูงสุด ยอมรับ ไม่อยากให้คดีทุจริตมีอายุความ

แนวทางการลดปัญหาการทุจริต ในประเทศไทย โดยเฉพาะแวดวงนักการเมือง นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกอัยการสูงสุด กล่าวในการเสวนาปราบโกง ต้องแรงและเร็ว ถอดบทเรียนจากมาเลเซียว่า ในการเมืองจะมีการตรวจสอบกลุ่มอำนาจเก่า หลังกลุ่มที่มีอำนาจใหม่เข้ามาดำรงตำแหน่ง หากสามารถสร้างคนยุคใหม่ให้ต่อต้านการทุจริต และไม่เป็นบุคคลที่ทุจริตได้ สังคมจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยจะต้องเริ่มจากที่บ้าน ที่ผ่านมาผู้มีอำนาจเข้ามาครอบงำหน่วยงานที่ตรวจสอบการทุจริต แต่ปัจจุบันมีโซเชียล ที่ทำให้กฎหมายมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การตรวจสอบได้ดีขึ้น พร้อมยอมรับว่าไม่อยากให้คดีทุจริตคอร์รัปชัน ไม่มีอายุความ เพราะสร้างความเสียหายให้กับประเทศมาก

นายนิติพันธุ์ ประจวบเหมาะ ผู้อำนวยการสำนักงานต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มองว่า อาชญากรรมการทุจริต ไม่สามารถใช้วิธีการดำเนินคดีแบบปกติได้ โดยมาเลเซีย ไม่สามารถทำได้อย่างอิสระ เพราะหน่วยงานปราบปรามการทุจริต อยู่ภายใต้สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ช่วงหลังเริ่มมีความเป็นอิสระพอสมควร และมีความเข้มแข็งมาก มีรายละเอียดการกำหนดโทษที่รุนแรงมาก ตรงกันข้ามกับประเทศไทย ที่ผ่านมาการดำเนินคดีล่าช้า เพราะกระบวนการยุติธรรมไม่สามารถผิดพลาดได้

ภายในงานเสวนาครั้งนี้ ยังมีการพูดถึงนาฬิกาหนูของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมด้วย โดยคาดว่าจะมีการล่ารายชื่อกว่า 2 หมื่นรายชื่อ เพื่อเรียกร้องให้เร่งรัดการตรวจสอบประเด็นดังกล่าวที่รัฐสภา